ข้อความต้นฉบับในหน้า
นอกสำนักงานวัดบางน้ำ ๒๐ ปี(๒๕๔๐-๒๕๕๐) ๓๕
๑. อัคฌยิวาสมาษ
หมายถึงอุปสักหรืออินาบาดอยู่ข้างหน้า เรียกว่า "อัคฌยิวาสมาษ" แบ่งออกเป็น ๒ อย่างคือ อุปสักสุตุปพกะ : มีอุปสักอยู่ข้างหน้า & นิปาตุปพกะ : มีกำบเกิดอยู่ข้างหน้า หนึ่งสมดุ ใช้ช่วงยบพัทยเข้าสามอำนามอื่น แต่ช่วงยบพัทยที่นำมาใช้นั้นเพราะอุปสักกับนิปาต เวลาเข้ามาแล้วตัวอัคฌยิวาสมาษนี้เป็นตัวประธานอยู่ช้างหน้า และเป็นนิวลุกสั้นถึงจะวานะ และอุปสักกับนิปาตที่นำมาใช้นั้น เป็นโลกลักษณะเนื้อความเป็นตัวประธานได้ตัวที่เนื้อความเป็นวิเสสนะของบทอื่นได้ และตัวที่เข้ามาอื่นได้ เช่น น สัพพ สะ สัพพเป็นต้น ถึงแม้ว่าดิอัคฌยิวาสมาษ เข้าสามอำนามอื่นได้เช่นน บุพพนาม กมมารยายศมาส หรือ อุยฺตปฺปุรสฺสมาฯ และ พุทธพิพิธมารบ้างอย่างคือ น บุพพนาม สะ บุพพนามพุทธพิธีและตัวอัคฌยิวาสมาษมีลักษณะเป็น วิเสสนะของมนัอ เช่น อนุเณโร พระเกเดรน้อย อันเป็นวิเสสนบุพพนาม กมมารยายสมาสก็ดี ถึงกระนั้น ก็มีข้อความว่าจะเป็นอัคฌยิวาสมา ษ ต้องประกอบด้วย คักษะ๓ ประการ คือ
๑. มีอัคฌยิวาสมาษ หรือ นิปาต อยู่ข้างหน้า
๒. มีอัคฌยิวาสมาษ หรือ นิปาต เป็นตัวประธานในบทปลง
๓.บทหลังต้องเป็นนุปสังิ และเอกวณออย่างเดียว
การตั้งวิเคราะห์ในสมาสน์ รูปวิเคราะห์ท่านใช้บทอื่น ที่มีเนื้อความคล้ายคลึงกันกับอัคฌยิวาสมาษ ที่นำมาเป็นบทปลง และรังเก็บไว้ข้างหลัง บทเดียวบ้างหลายบาทบ้าง ถาบทเดียวได้ความเก่ากับอัคฌยิวาสมักใช้บ่อยเท่านั้น ถ้าไม่ใชความก็ให้ลายบทาน ได้ความเขท้ายกับบทปลง ไม่ใช่เเต่นบทานอย่างเดียวเท่านั้น ที่ใช้ในรูปวิเคราะห์ แม้นับก็ยากที่จะใช้ประกอบกับอุปสัญในรูปวิเคราะห์ได้ เมื่อเข้ามาสงไว้เดี่ยวนุสํก
อันนี้ ถ้าผยฺยศัพพนั้น ๆ มุ่งความเป็นตัวประธานได้ ก็อัคฌยิวาสมาษนั้นเป็นตัวประธานในรูปวิเคราะห์ เรียงไว้ข้างหลัง แต่เมื่อเข้ามาสงแล้ว กลับไปไว้ข้างหน้า ต่อไปจะเเสดงอุทาทวารณ แห่งอัคฌยิวาสมา ทั้ง ๒ ดังกล่าวข้างต้นตามลำดับ ดังนี้