วิชาบลั้ววรรณคดี วิชาบาลีไวยากรณ์ เล่ม 3 หน้า 30
หน้าที่ 30 / 278

สรุปเนื้อหา

วิชาบลั้ววรรณคดีเป็นวิชาที่สำคัญในการศึกษาอุปรามและการเปรียบเทียบในรูปแบบของการสื่อความหมาย อธิบายแนวคิดของสมานและวิสาสะ ซึ่งเป็นศิลปะของการใช้คำในวรรณกรรมไทย การเรียนรู้เกี่ยวกับอุปรามและการจัดลำดับของคำช่วยให้เห็นโครงสร้างและความงามของภาษา ในการประยุกต์ใช้อุปรามเพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในบริบทของวรรณคดี

หัวข้อประเด็น

-การศึกษาอุปราม
-ความสำคัญของวรรณคดี
-การใช้งานของสมานในภาษาไทย
-ความหมายของวิสาสะ
-การเปรียบเทียบในวรรณกรรมไทย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

วิชาบลั้ววรรณคดี สมาน วิชานี้เป็นวิชาที่สามารถเป็นสมานได้ เพราะสมานนี้ เมื่อบวกเสร็จ มีต่าง เป็นอุปรามเปรียบเทียบในรูปไว้อรรถ เช่น บทอุปรามนี้ ถ้าผู่ข้างหน้า เรียกว่า "อุปรามพุปพน" ถ้าผู่ข้างหลัง เรียกว่า "อุปรามุณตรตน" เช่น อู. กาโก อิ้ว = การสุวา คำว่า "สรร" เป็นคุณ เมื่อเป็นกูยในรูปไว้อรรถเช่นนี้กี้เป็นสมานคุณ, ถ้าบวกเป็นประอาณ บทหนึ่งเป็นอุปรามวิเศษ คือเป็นวิสาสะนะ โดยเป็นเครื่องเปรียบ เช่น อู. โล่ สิริ อิ้ว = พระสีโท คำว่า "นะ" เป็นประธาน และคำว่า "สี" เป็นวิสดะ โดยเป็นเครื่องเปรียบ ยิ่งมีประธานในตัวเสร็จ ไม่ต้องหาบทอื่นมาเป็นประธานอีก จึงจัดเป็น "สมานถวา" ดังนั้น จึงรูปได้ว่า คัมมาชายสมาสที่เป็นวิสาสะพุปนท, วิสาสะตุตรน, สมาธิวพุปพน, อาจารย์พุปพน เป็น "สมาสนะ" อย่างเดียว วิสาสะในบทเป็น "สมาคุณ" อย่างเดียว ส่วนวิสาสะในบทเป็น "สมาคุณและสมาสนะ" ๑. วิสาสะพุปพน สมานนี้มีวาร์สะแนะ คือคุณมอยู่ย่านหน้า บทนามนามอยู่ข้างหลัง ในฐานะเสนในรูปไว้อรรถ ต้องมีวิสาสะ เช่น วิสาสะ, นิสัย เป็นวิสาสะ อุปปลี่ เป็นประธาน เมื่้อเข้าสมานแล้ว ถ้าบรรด้าจะพังต่อกันโดยวิธีรณี ก็อควัดกันโดยวิธีรณีเสีย ทั้งนี้เพื่องเพื่อความละเอียจในชัดเจน ถ้าเสร็จกลายเป็น วิสาสะโดยไม่ใด้ต่อด้วย วิธีสนอ่อกต่อหนึ่ง "ก็โลสละอวนอารัก" เพราะฉะนั้น ท่านจึงนิยมต่อด้วยวิธีสนออัก ต่อหนึ่ง และเมื่อทำได้เช่นนั้น คำก็จะละเอียจเป็น เช่น สิอุปปลี เป็นต้น อันนี้ คำพันเสนบางคำ เมื่อเปลี่ยนมาสแล้ว ก็เปลี่ยนไปบ้าง เช่น มนุโด ปุรีสต์ เป็น มหาปรีโล เพราะ มหุดิ คำที่ เมื่อเข้าสมานแล้ว ท่านเปล่งเป็น มหา เช่น มหุดิ ว่า = มหาวาน, มหุดิ ธานี = มหาเทนา เป็นต้น และเปลี่ยนเป็น มหา ก็มี เช่น มหุดิ คำ มหุปปลี บทเสนจะอาจยาก เมื่อเข้าสมานแล้วเหลือไว้แต่หัวหน้า ตัวเดียวเช่น ฤทธิ์ ติ, กีริอ, กุฏิอ, สุโณ, ปรีโสสะปุโรโส (ชื่อ ปุ ด้วย วิธีสนอี) ปราน วิจจะ = ปวาง, (ที่พูด อะ ทิี เป็น อา) นอกจากยังมีข้อสังเกตุในสมาน นี่ คือ ๑.๑ เมื่อเข้าสมานแล้ว ถ้าเป็นบทที่เสนได้ ก็อควรต่อกัน ด้วย (ข้อสังเกตุนี้ใช้ได้ในสมานทั่วไป)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More