วิทยฐานะแห่งชาติ วิชาบาลีไวยากรณ์ เล่ม 3 หน้า 218
หน้าที่ 218 / 278

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับวิทยฐานะแห่งชาตินี้กล่าวถึงการศึกษาเรื่องพยัญชนะในภาษาไทยที่มีการแบ่งออกเป็น 2 พวกหลัก คือ วรรณะ และ วรรล ซึ่งแต่ละประเภทยังมีการจัดกลุ่มตามฐานะการเสียงที่แตกต่างกัน เช่น พยัญชนะ 33 ตัวนั้นสามารถแบ่งเป็นกันตามฐานะเกิดที่ให้เสียงที่ชัดเจน และมีการแสดงให้เห็นถึงการออกเสียงคำให้มีความหมายที่ชัดเจน เช่น ตัวอย่างคำว่า "พ่อนะ" โดยจะมีการอธิบายถึงความแตกต่างทางเสียงที่พยัญชนะและวรรณะสามารถทำได้ รวมถึงประเภทและตัวอย่างของวรรณะต่าง ๆ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยโดยในการศึกษาและสื่อความหมายนั้น พยัญชนะก็ยังถูกจำแนกตามกลุ่มดังกล่าวทั้งการมีและไม่มีฐานรากในการออกเสียง เช่น “อง” ที่ “ต้องไปตามหลังสมะเป็นระยะ” ซึ่งช่วยในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการออกเสียงในภาษาไทยได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-พยัญชนะในภาษาไทย
-การแบ่งประเภทพยัญชนะ
-วรรณะและวรรล
-การออกเสียงและความหมาย
-การศึกษาเกี่ยวกับเสียงภาษาไทย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

วิทยฐานะแห่งชาติ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นย่อมไม่ได้ เพราะลำพังสะเเองจะสามารถออกเสียงได้ตามคำผัน แต่อย่าผู้นั้นไม่อาจแสดงเสียงเป็นอย่างเดียวกันหมด ไม่สามารถสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น คำว่า “พ่อนะ” ถ้าผู้เผือนะไม่อ่ำ คำเสียงจะเป็นค่า ๓ อย่างเช่นกันคำว่า “ซ่อเอ” แต่คำผู้นะคือ “พง, ม, ” เข้าไปอ่ำ จึงออกคำเสียงได้อย่างชัดเจนว่า “พ่อแม่” เป็นดังนั้น ส่วนผู้นะในบรรดาพยัญชนะ ๓๓ ตัวดังกล่าวจัดเป็น ๒ พวก คือ วรรณะ ๑ วรรว ๑ กล่าวคือ ที่เป็นพวก ๙ กันตามฐานะ เช่นเดียวกับ “วรรล” ส่วนที่ไม่เป็นพวกเป็นหน่วยตามฐานะเกิด เรียกว่า “วรรล” ในพยัญชนะวรรณะ ท่านยังจัดออกไปเป็นวรรลได้อีก ๕ วรรล มีวรรคร ๕ ตัว เรียกว่า คำมง ๔ ตัวนี้ เรียกว่า ค วรรล ฉนธมญ ๔ ตัวนี้ เรียกว่า อ วรรล อุตัวตน ๔ ตัวนี้ เรียกว่า อ วรรล ดถกถน ๔ ตัวนี้ เรียกว่า ต วรรล ป มพ กาม ๔ ตัวนี้ เรียกว่า ป วรรล ส่วนพยัญชนะอีก ๕ ตัวคือ ย ร ส พ ห แสดงตัวมีฐานรากเดียวกัน ไม่เกิดร่วมฐานรากเดียวกัน จึงจัดเป็น “วรรล” แปลว่า ไม่เป็นพวกกันตามฐานรากที่เกิด นอกจากนี้ พยัญชนะ คือ “ ” (อิ) เรียกว่า “นิคติค” บ่ง เรียกว่า “อนุสร” บ่ง นิคิดติ ค แปลว่า “กดสะระ” คอ กเสียงหรือกดกรน คือ กดอวัยวะที่ทำเสียง เวลาที่จะกล่าวไม่ต้องอ้าปากเกินกว่าปกติ เหมือนที่ยามระส่วนคำว่า อนสาสา แปลว่า “ไปตาม” กล่าวคือ พยัญชนะ คือ “อง” นี้ต้องไปตามหลังสมะเป็นระยะ คือ “อ อุ อุ” เสมอ เช่น อง เสถีย อากสัน เป็นต้น พยัญชนะ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More