ข้อความต้นฉบับในหน้า
อย่างไรก็ดีตาม เมื่อ 2 บทบอกลักษณะขึ้นปรอทอยู่ แต่แปลออกนิบาดความไม่กินกัน เช่น คำว่า "อสุราโก" จะเป็ นสมาชาวันทะ คีดลักษณะเพราะไม่เป็นเอกะนะบลสิงค์ จะเป็น อสุราาท่านทวนทะก็ได้ เพราะเป็นกวาจะฉะนั้น ควรให้เป็นดัับปรัชญาแล้วใส่เสียงอายับรรของคำนี้เป็น "อสุร" ให้ดูกับคำว่า "อสุรา" ให้ดูยอผริพี่ นี่ได้คำว่า "เทียมแล้ว" เข้ากลางประกอบวิถีดี วน่ะ ลิงไว้ เหมือนกับ "รดา" อันเป็นบรรพบุรุษ เช่น อุลาน ยูโด๊ด โต = อสุรา โถนเขาเทียบมแล้วด้วยม้า เป็นนิด ต่อไปจะจบอุทาหรณ์แห่งติปปรสวามระดับประเภทเพื่อเป็นเครื่องประกอบความเข้าใจของนักศึกษา ตามลำดับดังนี้
๑. ทุติยัตปะระ
๒. ชูปุตโต = ชูปุตโต (ปุโรหิต) บูรพีจึ่งแล้วบังสุข ฯ
๓. วิสาขาร ตดี = วิสาขารวด (จิตติุ) จิตติแล้วบังวิสาขะ ฯ
๒. ตติยัตปะระ
อุโมนาน (สมปุถุสูตร) จิตติ = โถพจิตติ ฯ จิตติแล้วบังวิสาขะ ฯ
อุโยเทน (ยุโด) = ยมูรโต = รถประกอบแล้วด้วยเครื่องยนต์ ฯ
๓. อุตตัตติปะระ
อุ มณฑกัส กฏติ = มณฑกคุตติ = กัตตรเพื่อผัดผ่อน ฯ
อ. ศิลาอมร เดชะ = ศิลาอมรเดชะ : ยาเภอคนใช้ ฯ