การเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่ : หน้า 132/433

เลี้ยงดูCV ๑๐๗ จากผลการวิจัยทางการแพทย์ว่า การเลี้ยงดูลูกอย่าน้ำแม่อย่างน้อย ๖ เดือนขึ้นไปและความอบอุ่น ofarakในวัย ๑-๗ ขวบ มีความสำคัญต่อพฤติกรรมของเด็กเมื่อโตขึ้นอย่างมาก จากการศึกษาจิตใจเด็กพบว่า เด็กที่ได้รับกินนมแม่ นาน ๖ เดือนขึ้นไป จะมีจิตใจโรงอยู่เสมอ น้อยครั้งที่จะมีอารมณ์โมโหรุนแรงและมีโทษไม่นาน ไบหน้าจะงดงาม ยิ้มสวย ยิ้มเก่ง แววตาของเด็กมีประกายของความสุข มองแววตาสดใส ผิดกับเด็กที่กินนมขวดแบบตรงกันข้าม จิตแพทย์อธิบายว่า ความสุขของเด็กที่พบได้ในเด็กกินนมแม่ นั้น เกิดจากการที่แม่มีอุ้มอุ้มห่อบคอ"อก มีการถ่ายทอดความรู้สึกทางผิวหนัง ทางประสาทหูและประสาทตา หูเด็กได้ยินเสียงเต้นของหัวใจแม่ และได้ยินเสียงหัวใจในอกของแม่ สิ่งเหล่านี้ร่วมกันเป็นองค์ประกอบสมสมัผัสให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นเป็นสุขน่าเสมอ แล้วผลเปลี่ยนมาเป็นความเมตตาและความไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งจะพบในเด็กกินนมแม่ นาน ๖ เดือนขึ้นไป เด็กจะกินนมอย่างพอใจ สุขใจและยิ้ม อารมณ์ดี ไม่มีความรู้สึกขาดแคลนใด ๆ เกิดขึ้น จิตใจจะมั่นคง รู้จักเหตุผลและรู้จักคอย นั่นคือ รู้จักอดทนต่อทุกสถานการณ์ได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้จะมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลยในเด็กที่กินนมขวด นิสัยขาดเมตตาและเห็นแก่ตัวจะพบได้สูงในเด็กกินนมขวด สมองคนทุกคนได้รับข้อมูลทั้งวัยและดี รวมกันอัดไว้แน่นตอนช่วงอายุ ๐-๓ ขวบ ข้อมูลก่อน ๓ ขวบ ที่สมองเก็บไว้ จะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเช่นนี้จริง เช่น คนกล้าแสดง คนกลัวฟ้อง คนกลัวความสูง ส่วนใหญ่เกิดจากประสบการณ์ที่เกิดในวัย ๐-๓ ขวบ และจะแก้ไขสลายได้นำ ดั้งนั้น การสอนคนให้เป็นคนต้องสอนตั้งแต่ก่อน ๓ ขวบ นิสัยดี ๆ นั้นจะได้ฝังแน่นติดตัวเด็กไปตลอด เด็กที่กินนมแม่จะได้รับข้อมูลที่ฝังในสมองในเรื่องของความเมตตาและความไม่เห็นแก่ตัว เด็กกินนมเหล่านี้ ถ้าไม่มาฝึกในช่วงชีวิต ๐-๓ ขวบ จะเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดีเยี่ยม