ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประพฤติพรหมจรรย์ ๑๓๓
ขอให้เจริญสติกุฎฐะ สุขลักษณะที่เป็นยอดสุขนั้นไม่มี เป็นร้อยก็คิดว่าเป็นร้อยโทจะสุข พอเป็นร้อยก็คิดวาเป็นร้อยเอกจะสุข ได้ตามขั้นไป ร้อยเอกกว่าพันตรี พันตรีกว่าพันโท จนเป็นนายพลยังคิดว่าสุขข้างหน้านี้ดีกว่าของตน
หากวิ่งตามตะครุบสุขเรื่อยไป จะวิ่ง ดีเดือน ดีปี ดีชาติ วิ่งตามตะครุบไปได้สุดโลกียามันดับหน่อย แต่ค่าวิตกทุกข์มากเท่าไหร่ หากลบลบหนนี้แล้วจะพบว่าทุกข์มากกว่สุข และที่สำคัญ จิตที่วิ่งวิ่งสับสน มีโอกาสพลาดพลังได้ง่าย เหมือนคนวิ่งวนสับสนแหละ มีหวังหลงตกลุมตลุมบ่อเข้าใจดี จิตก็เหมือนกัน วิ่งไล่จับความสุขทั่วหัวซุน คนที่จะวิ่งไม่ดีหลบเข้าดูกเขาได้ตะรงก็เหมือนกัน วิ่งใล้จับความสุขทั่วหัวซุน คนที่จะระงำไม่ดีหลบเข้าดูกเขาเริงจะเยอะ ถลำลงนรกอเวจีมาก
อุปมาความสุขในโลกีย์มั้ง ๓ ชั้น ได้ดังนี้
ถามวาจภูมิ เป็นสุขขั้นต่ำ ยิ่งดูเกี่ยวกับถามสุขเหมือนเด็กเล่นนี้เล่นดิ้น
รูปวาจภูมิ เป็นสุขสูงขึ้นมาหน่อย สุขเหมือนคนมีงานมีการที่ถูกใจทำเพลิดเพลินไป
อรูปวาจภูมิ เป็นสุขสูงขึ้นมื่อกว่า สุขเหมือนพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่เห็นลูกชั่งตนเลี้ยงดูลูกมามา มีความเจริญก้าวหน้า หรือเห็นงานการที่ตนทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ชื่นชมผลงานของตน
ศาสนาโดยทั่วไปรอย่างสุดที่สุดจะให้คนเราพัฒนาใจได้ถึงขั้น อุปมานเท่านั้น เช่น ศาสนาพารมหานิ กัลยานใจคนมุ่งเป็นพระพรหม ยังวนเวียนอยู่ในโลกีย์ ฯลฯ แต่พระพุทธศาสนาของเราสอนให้คนมุ่งหน้า สู่โลกุตตรภูมิ เข้าพิพพาน