ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๒๒ มงคลที่ ๑๘
วิธีพิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่
ในการพิจารณางานที่ว่าเป็นงานมีโทษหรือไม่ ต้องมิให้เอาคำติมของคนพวกนั้น เป็นคนมีจุฑูมนัวเป็นปกติ มีวิจฉัยเสีย ความคิดเห็นผิดเพี้ยนไปหมด สิ่งใดที่ถูกเห็นเป็นผิด ที่ผิดกลับเป็นถูก หรือเรื่องที่คนพวกเห็นเป็นเรื่องที่ชั่ว แตเรื่องที่ชั่วกลับเห็นเป็นเรื่องที่ดี จึงถือเป็นบรรทัดฐานไม่ได้
ส่วนหลักฐานนั้น เป็นคนมีความคิดเห็นถูกต้อง รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้จักบาปบุญคุณโทษ ทั้งเป็นคนมีศิลดิ์ คนประเภทนี้ใจกับปากตรงกัน เราจึงควรฟังคำติชมของบัณฑิตด้วยความเคารพ
หลักที่บัณฑิตใช้พิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่นั้น มีอยู่ ๔ ประการ
ด้วยกัน แบ่งเป็นหลักทางโลก ๒ ประการ และหลักทางธรรม ๒ ประการ
๑ งดประกอบของงานไม่มีโทษ
งานไม่มีโทษจะต้องมีองค์ประกอบ ๕ ประการ ดังนี้
๑. ไม่ผิดกฎหมาย ๒. ไม่ผิดประเวณี ๓. ไม่ผิดศีล ๔. ไม่ผิดธรรม ๕. ไม่ผิดกฎหมาย กฎหมายนั้นเป็นระเบียบข้อบังคับซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตาม การทำผิดกฎหมายทุกอย่างจัดเป็นงานมีโทษทั้งสิ้น แมงอย่างจะไม่ผิดศีลธรรมบ้างเลย เช่น การปลูกบ้านในเขตเทศบาล ต้องขออนุญาตตามเทศบาล ถ้าไม่ขอผิด การทำอย่างอื่นผิดเพี้ยน ทางธรรมเหมือนผิด Because ปลูกในที่ของเราเอง และด้วยเงินทองของเรา แตกระทำดังกล่าวก็เป็นงานมีโทษอันคึำ่ ขึ้นเท่านั้นเอง อย่างน้อยผิดผมคง