การพิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่ มงคลชีวิต ฉบับทางก้าวหน้า หน้า 181
หน้าที่ 181 / 433

สรุปเนื้อหา

การพิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่นั้น ควรฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีจริยธรรมและความรู้ ความเข้าใจ จะต้องใช้หลักในการพิจารณาอย่างเป็นระบบ ได้แก่ งดประกอบของงานที่ไม่มีโทษโดยถือว่าต้องทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ทำผิดประเวณี ไม่ผิดศีลธรรม ไม่ละเมิดธรรมชาติ ซึ่งการไม่ปฏิบัติตามหลักดังกล่าวถือว่ามีโทษอย่างแน่นอน จึงควรเคารพคำติชมจากผู้มีประสบการณ์และมีความรู้เพื่อการตัดสินใจอย่างมีสติและเหมาะสม เพื่อการดำรงชีวิตที่ดีและมีความสุข.

หัวข้อประเด็น

-หลักการพิจารณางาน
-งานที่ไม่มีโทษ
-ศีลธรรมและกฎหมาย
-การเคารพความคิดเห็นของบัณฑิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๑๒๒ มงคลที่ ๑๘ วิธีพิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่ ในการพิจารณางานที่ว่าเป็นงานมีโทษหรือไม่ ต้องมิให้เอาคำติมของคนพวกนั้น เป็นคนมีจุฑูมนัวเป็นปกติ มีวิจฉัยเสีย ความคิดเห็นผิดเพี้ยนไปหมด สิ่งใดที่ถูกเห็นเป็นผิด ที่ผิดกลับเป็นถูก หรือเรื่องที่คนพวกเห็นเป็นเรื่องที่ชั่ว แตเรื่องที่ชั่วกลับเห็นเป็นเรื่องที่ดี จึงถือเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ ส่วนหลักฐานนั้น เป็นคนมีความคิดเห็นถูกต้อง รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้จักบาปบุญคุณโทษ ทั้งเป็นคนมีศิลดิ์ คนประเภทนี้ใจกับปากตรงกัน เราจึงควรฟังคำติชมของบัณฑิตด้วยความเคารพ หลักที่บัณฑิตใช้พิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่นั้น มีอยู่ ๔ ประการ ด้วยกัน แบ่งเป็นหลักทางโลก ๒ ประการ และหลักทางธรรม ๒ ประการ ๑ งดประกอบของงานไม่มีโทษ งานไม่มีโทษจะต้องมีองค์ประกอบ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ไม่ผิดกฎหมาย ๒. ไม่ผิดประเวณี ๓. ไม่ผิดศีล ๔. ไม่ผิดธรรม ๕. ไม่ผิดกฎหมาย กฎหมายนั้นเป็นระเบียบข้อบังคับซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตาม การทำผิดกฎหมายทุกอย่างจัดเป็นงานมีโทษทั้งสิ้น แมงอย่างจะไม่ผิดศีลธรรมบ้างเลย เช่น การปลูกบ้านในเขตเทศบาล ต้องขออนุญาตตามเทศบาล ถ้าไม่ขอผิด การทำอย่างอื่นผิดเพี้ยน ทางธรรมเหมือนผิด Because ปลูกในที่ของเราเอง และด้วยเงินทองของเรา แตกระทำดังกล่าวก็เป็นงานมีโทษอันคึำ่ ขึ้นเท่านั้นเอง อย่างน้อยผิดผมคง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More