ข้อความต้นฉบับในหน้า
مارคฺชีวิต
มาก ปฏิบัตตนเป็นผู้นำเป็นแนบอย่างเก่าพระภิษุสงฆ์อันในกานเผยแผ่พระศาสนาพระภิษุสงฆ์ส่วนใหญ่มด้ความศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นแฟ้นเป้าหมายการบวชในสมัยน้นคือบวชเพื่อมุ่งพระนิพพานกันจริง ๆ ให้ความสำคัญทั้งพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรมควบคู่ไปนอกจากนั่นท่าทางที่ท่านสอนประชาชนให้ปฏิบัติตามต่อไป พระพุทธศาสนาจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว
ต่อมาผู้บวชสรรธรรมเป็นพระอรหันตมีน้อยลง ในหมู่พระภิษุสงฆ์ก็มีทั้งผู้มีจักษ์ มีความเชี่ยวชาญทางด้านพระปริยัติธรรมและผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านธรรมปฏิบัติ but เนื่องจากการศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดความรู้สามารถจัดการศึกษาเป็นระบบและให้ความศึกษาได้ ในขณะที่ธรรมปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่เฉพาะตน เป็นของละเอียด วัดได้เอง และเนื่องจากพระภิษุสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมปฏิบัติมีใจ๋ไมอิทธิ์ไปในทางแสงหาความสงบสุขนักไม่ชอบการคดลักลับด้วยหมู่คณะ เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากเวลาผ่านไป พระภิษุสงฆ์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านพระปริยัติธรรมจึงขึ้นมาเป็นผู้บริหารการปกครองคณะสงฆ์โดยปรัยย๎๎๎
เมื่อผู้บริหารการคณะสงฆ์เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านพระปริยัติธรรม ก็เป็นธรรมดาอยู่เองกว่าการส่งเสริมการศึกษาของสงฆะจะเน้นหนักในด้านพระปริยัติธรรมเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยและชำนาญ แม้จะเห็นความสำคัญของธรรมปฏิบัติ แต่เมื่อไม่คุ้นเคย ไม่มีความชำนาญ การสนับสนุกก็ทำได้ในขอบเขตหนึ่งเท่านั้น พระภิษุสงฆ์รุ่นใหม่ ๆ จึงก็รับการฝึกอบรมในด้านพระปริยัติธรรมเป็นหลัก ส่วนธรรมปฏิบัติค้บ่ย ๆ ลดน้อยถอยลง
การศึกษาพระปริยัติธรรมนัน้ ในยุคแรก ๆ ก็ศึกษเพื่อเน้นให้เข้าใจในพุทธพจน์คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อมาใช้ในการประพฤติปฏิบัติ แต่เมื่อมาเมื่อศึกษาเข้ ๆ ก็มีพระภิษุสงฆ์ที่เป็นนักคิด นักทฤษฎี
5 (กลายเป็นข้อความในอ้างอิง)