ข้อความต้นฉบับในหน้า
๓. บุคคลนี้เหมือนนอนนก คือชอบโผนขึ้นไปนอกอากาศ พอได้กลิ่น อะไร ๆ ก็ถูกใจหน่อยตามดมที่เดียวว่ามาจากไหน
๔. ลิ้นคนเรานี้เหมือนสนุขบาน คือชอบลิ้มรสอาหาร วันที่ 6 ขอให้ได้กินของอร่อย ๆ เถอะ เที่ยวชอรชอบอาหารอร่อย ๆ กินทั้งวัน ยิ่งเป็นพิศดารละกี่ยชอบนั่น
๕. กายคนเรานี้เหมือนสนุขจิงจก คืบขาอุ่ ๆ ที่นุ่ม ๆ ชอบกุ้งเดียวจะไปกุ้งกดดนโน่น เดี่ยวจะไปกุ้งกดดคนนี้ ขอบิ่งคนโน่น ขอบจับคนนี้
๖. ใจคนเราเหมือนลง คือลอบชน คิดโน่น คิดนี่ ประเดี๋ยวฟังซ่านถึงเรื่องในอดีต ประเดี๋ยวก็สร้างวิมานในอากาศถึงเรื่องในอนาคต ไม่ยอมอยู่เนือง ไม่ยอมสงบ
อินทรีย์สังวร ที่สำรวจระวังตัว ก็คือระวังทางทั้ง ๖ นี้ เมื่อจึงถึงธรรมชาตของมันแล้วก็ต้องคอยระวัง ไฉลต์เข้าช่วยกำกับ อะไรที่ไม่ควรดู อย่าไปดูว่าอะไรที่ไม่ควรฟังยกย่อไปฟัง อะไรที่ไม่ควรกลืนก็อย่าไปอิ่ม อะไรที่ไม่ควรสัมผัสก็อย่าใส่มีผล อะไรที่ไม่ควรคิดอย่าไปคิด หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเข้าแล้ว ก็ให้จบแค่เห็น ไม่คิดปรุงแต่งต่อว่า สวยจริงนะ หล่อจริงนะ อะไรนั่นของนี้ ต้องไม่ถึงโดยมินิต หมายถึง เห็นว่าสวยไปทั้งตัว เช่น “เอา คนสวยจริง ๆ ต้องไม่ถึงโดยอนุพุฒชนะ” หมายถึง เห็นว่าส่วนใดส่วนหนึ่งสวย เช่น “ตาสวยนะ คมปลายเลย” หรือแขนสวย ขาสวย อะไรอย่างนี้
อินทรีย์สังวร เป็นเรื่องสำคัญมาก เราสู้ก็บีลสำเร็จหรือแพ้ยู่ตรงนี้ ถ้าเรามีธรรยาสงัดดีแล้ว โอกาสก็บีลจะรุกฐานเราก็เท่า คุณธรรมต่าง ๆ ที่เราตั้งใจรักษาก็จะสามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจ เหมือนบ้าน ถ้าเราใกล้ดูแลและดูแลดูหนาต่างอย่างดีแล้ว ถึงแม้ว่ามลิชาตามดูจะไม่ได้ใกล้ญอ่ม ก็ปลอดภัย โจรมาก็เอา ไปไม่ได้ แต่ถ้าเรา ขาดการสำรวมอินทรีย์ ไปดูในสิ่งที่ไม่