ความเข้าใจในพระพุทธศาสนาและแนวคิดของนักปรัชญา มงคลชีวิต ฉบับทางก้าวหน้า หน้า 406
หน้าที่ 406 / 433

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาพูดถึงการวิเคราะห์ทัศนทางปรัชญาของศาสนาและความเข้าใจในเรื่องอธิปัญญา โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับโลกและจิตที่พระพุทธเจ้าทรงไม่ทรงพยากรณ์ เน้นการให้เหตุผลตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เมื่อมีการใช้ความคิดตรรกศาสตร์เพื่อพิสูจน์จะนำไปสู่วิธีคิดที่แตกต่างกัน มีการพัฒนากลุ่มนิกายนิยมที่นำไปสู่ความขัดแย้งแยกตัวภายในพระพุทธศาสนา ทำให้ความหมายของพระพุทธศาสนาซับซ้อนจนชาวบ้านไม่เข้าใจ

หัวข้อประเด็น

-ความคิดทางปรัชญา
-หลักธรรมของพระพุทธศาสนา
-แนวคิดของนักกถาปฏิ
-ความแตกแยกในหมู่ชาวพุทธ
-การปฏิบัติและความเข้าใจในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

มงคลชีวิต ๓๙๑ จำนวนหนึ่ง ทัศนาทำจากนักปรัชญาของศาสนาอื่น ๆ ไม่ได้ เมื่อ ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องอธิปัญญา เช่น โลกนี้โลกหน้ามีจริงหรือไม่ จิตมี การรับรู้ได้อย่างไร โลกเป็นอยู่อย่างไร มีจริงหรือไม่ เป็นดัง จึงพยายามหาเหตุ ผลทางกฎหมายดูแนวคิดในทางพระพุทธศาสนาและใช่การให้เหตุผลผล ทางกถารตามรายปัญหาเหล่านี้ ทั้ง ๆ ที่คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่พระ สัมมาณพุทธเจ้าไม่ทรงพยากรณ์ เพราะถือว่าไม่เกิดประโยชน์มิแต่จะเป็นเหตุ ให้กิเลสทะเลาะเบาะแว้งกัน ทรงอบรมสั่งสอนแต่ในสิ่งที่นำไปสู่การขัดเกลา กิเลส มุ่งสู่พระนิพพาน ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นแล้วผู้อภิบาลก็ยอมจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ เอง หลักธรรมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติจนเข้าถึงแล้ว ผู้อภิบาลยอม เห็นตรงกัน เป็นภาวนามัยปัญญา(ความรู้แจ้งที่เกิดจากความเห็นแจ้ง) แต่เมื่อ พยายามพิสูจน์ด้วยความคิดทางตรรกศาสตร์ ด้วยจินตมยปัญญา(ความรู้คิด) ไม่ได้ดูแจ้งด้วยตนเองเพราะไม่เห็นแจ้ง ย่อมมีความคิดแตกต่างหลากหลาย ผล ก็ คืออันกถาปฏิของพระพุทธศาสนาเองมีความเห็นไม่ตรงกัน ทะเลาะเบาะแว้ง กันเอง เกิดเป็นแนวคิดของสังกัดต่าง ๆ และแตกตัวเป็นนิกายนิยมต่าง ๆ ในที่สุด มีกถาปฏิในพระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น นาคารชุน อสัมคะ วสุเทพ ทีคณะ กว่าจิณ ฐานมิติ ศานตาร์บิตตะ เป็นต้น แนวคิดของพระนักกถาปฏิฬเหล่านี้มักมีความลึกล้ำมาก จนแม้นักวิชาการ ทางตะวันตกปัจจุบันมาเห็นเข้าถึงนิสัยนั้น แต่ผลที่เกิดก็คือ เกิดความขัดแย้ง แตกแยกในหมู่ชาวพุทธ และพระพุทธศาสนาด้วยกลายเป็นศาสนาที่มีลักษณ์ สอนสลับซับซ้อน จนชาวบ้านฟังไม่เข้าใจ ประหนึ่งว่าพระพุทธศาสนาลาย เป็นศาสนาของพระภิษุสูงเท่านั้น แต่มีก็พระภิษุสูงเพียงจำนวนนน้อยที่รู้ เรื่อง และยังคดีเห็นไม่ตรงกันอีก ส่วนชาวพุทธทั่วไปปลายเป็นชาวพุทธแต่ใน นาม ไปวัตถุบูชาตามเทศกาล ตามประเพณีเท่านั้น (อ) Harvey , Peter. (2000) An Introduction to Buddhism , pp.73-75 (๒) Hirakawa , Akira. (1994) History of Indian Buddhism , pp. 32-300
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More