ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๙๖ มงคลที่ ๑๐
ว่าใครดี "ฉัน...ฉัน" อย่างนี้ไม่ได้
๑๒.ไม่พูดนานไปน่าเบื่อ รู้จักกาลเทคะ เรื่องบางเรื่องแม้น้าฟัง
แต่ถ้าพูดนานไปมากไป ผลที่ได้กลับจะน้อยกว่าพูดพอดีๆ เหมือนคนรับ
ประทานอาหาร แม็เป็นอาหารดีรสอร่อย ถ้าประทานอิ่มไปจนจุกท้องเพื่อ
ทีหลังจะพลายยายไม่อยากจะรับประทานอาหารชนิดนั้นๆ
วิธีสนทนาธรรม
โดยสรุป หลักในการสนทนาธรรมรวมได้เป็น ๓ ประการ คือ
๑. สนทนาในธรรม คือเรื่องที่จะสนทนากันต้องเป็นเรื่องธรรมะ ให้
อยู่ในวงธรรม อย่าออกนอกวง เช่น ถ้าพูดถึงการทำความดีให้สุดแต่หักคา
อย่าให้เลยไปถึงอดีด จะพูดถึงเรื่องการป้องกันไม่ให้ทำความรั่ว ก็ให้สุดแค
ป้องกันการทำร้าย อย่าให้เลยไปถึงนิทานคนอื่น
๒. สนทนาด้วยธรรม คือผู้สนทนากันจะต้องไม่แสดงกิริยาว่าว่าให้
ผิดธรรมมะ เช่น ทากายก็มีการเคาะกันโดยฐานานุรูป ควรให้โอไว้ ควรรบกิ
ราบฏอย่าคิดนงนตัวด้วยเหตุควาวมีความรู้มากกว่าเขา ในทางวาจา ก็ใส่
ถ้อยคำสุภาพเรียบร้อย เป็นวาจาสุภาพ ถ้าฝ่ายหนึ่งถูกชม ถ้อยฝายหนึ่งผิด
ทักโดยสุภาพ ไม่กล่าวว่าหนีแนวล่วงเกิน และถ้าผลาดก็ขออโทษ
ไม่ใช่นทานกันด้วยกิเลส หรือปล่อยกิเลสออกมาได้ดังดังกล่าววามแล้ว
๓. สนทนาเพื่อธรรม คือผู้สนทนาต้องตั้งจุดมุ่งหมายในใจของตน
ให้แน่นอนว่า เราจะหาความรู้ความเข้าใจในธรรมะแห่งๆๆ ขึ้นไป ไม่ใช่จะ
อวดรู้หรืออวดธรรมะ แม้บางจังหวะเราเป็นผู้แสดงความรู้ออกไป ก็คิดว่าเราจะเอาความรู้ของเราไปต่อเอาความรู้ของผู้อื่นมาดๆ มิใช่จะอวดรู้