ข้อความต้นฉบับในหน้า
ม่วงชีวิต
ข้อควรระวัง
๑. อย่าใช้น้ำลัง คือ ไม่ใช้น้ำลังใด ๆ ทั้งสิ้น เช่น ไม่ บีบกล้ามเนื้อท้องเพื่อให้เห็นนิ่วเร็ว ๆ ไม่เกร็งแขน ไม่เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ไม่เกร็งตัว ฯลฯ เพราะการใช้น้ำลังส่วนไหนของร่างกายก็มา จะทำให้จิตเคลื่อนไหวจากศูนย์กลางกายไปสู่จุดนั้น
๒. อย่าหากเห็น คือทำใจให้เป็นกลาง ประคองสมาธิให้ผลออกจากบริกรรมภาวนาและบริกรรมมนต์ ส่วนจะเห็นนิ้วเมื่อได้นั้น อย่างง่วน ถ้าถึงเวลาแล้วอ้อมเห็นเอง การบังเกิดของดวงนิ้วนั้นอุปมาเสมือนการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ เราไม่อาจจะเร่งเวลาได้
๓. อย่านังกวลถึงกำหนดลมหายใจเข้าออก เพราะการฝึกสมาธิเจริญภาวนาเพื่อให้เข้าถึงธรรมกายอัตภาพนิ่งถึง “อโลกลกสิณ” คือสิณความสงบเป็นบาทเบื้องต้น เมื่อฝึกสมาธิเข้าถึงดวงปูมมรรคแล้ว ฝึกสมาธิต่อไป ผ่านกายมนุษย์ฉะเดียว กายทิพย์ กายอรูปพรหม กายอรูปพรหม จนกระทั่งเข้าสู่วงกรรมและจิตวิสบในภายหลัง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดลมหายใจเข้าออกแต่มุ่งใด
๔. เมื่อเลิกนั่งสมาธิแล้ว ให้ตั้งใจไว้ที่ศูนย์กลางกายที่เดียว ไม่ว่าจะอยู่ในอริยาบทใดก็ตาม เช่น ยืนก็ดี เดินก็ดี นอนก็ดี หรือ นั่งก็ดี อย่าย้ายจุดที่ตั้งไว้จุดนี้เป็นอันขาด ให้ตั้งใจบริการวนา พร้อมกันถึงบริการมนต์ เป็นดวงแก้วใสควบคู่ตลอดไป
๕. นิยมต่าง ๆ ที่ดิฉันจะต้องนอนใต้วิศุทธิ์กายที่เดียว ถ้ามิได้เกิดขึ้นแล้วหายไปก็ไม่ต้องตามหา ให้ความนาบประคองใจต่อไปตามปกติ ในที่สุดเมื่อจิตสงบ นิยมย่อมปรากฏขึ้นใหม่อีก การฝึกสมาธิบังตนเท่าที่กล่าวทั้งหมดนี้ ย่อมเป็นปัจจัยให้เกิดความสุขได้พอสมควร เมื่อซักซ้อมปฏิบัติอยู่เสมอ ๆ ไม่ทอดทิ้ง