ข้อความต้นฉบับในหน้า
ม.คามวดตน ๒๔๕
“ผู้ใดโกรธตอบผู้ที่โกรธก่อนแล้ว
ผู้นั้นกลับเป็นคนเลวกว่าผู้ที่โกรธก่อน
ผู้ที่ไม่โกรธตอบบุคคลกำลังโกรธอยู่
ยอมชื่อว่า เป็นผู้ชนะสงครามอันชนะได้ยากยิ่ง”
ส. ส. ๑๕/๑๓๙/๒๕๒
๗. ไม่ปลูกน้ำตาให้แก่อื่นๆ คือไม่อาฆาตให้แก่อื่น ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือเจ็บแค้นใจจน น้ำตาไหล ด้วยอำนาจความเกรี้ยวกราดของเรา
๕. มีใจเบิกบานแม่อยู่เป็นนิตย์ คือมีดีออ่มใจเสมอๆ ไม่พยายาม ไม่โทษฟ้า โทษฝน โทษวาดา โทษโชคชะตา หรือโทษใครๆ ทั้งนั้น พยายามอดทนทำงานทุกอย่างด้วยใจเบิกบาน
ลักษณะความอดทนนัน่ โบราณท่านสอนลูกหลานไว้ อีก ว่า
“ปิดหูขวา ปิดตาซ้าย ง อิดปากเสียง นอนนั่งสบาย”
คนบางคนนี้เขาทำงาน บางคนนี้เขียนหนังสือ บางคนเกาะเกร พอมีผู่าว่า ลักตเตือนก็เฉยเสีย แล้วบอกว่าตนเองกำลังบำเพ็ญขันติ
บารมี อย่างนี้เป็นการเข้าใจผิด ดีความหมายของขันติไม่ได้หมาย
ถึงการตกอยู่ในสภาพใดก็ตามอย่างนั้น
พวกที่กินกันจนต่อไป ไม่ขวนขวายทำงานหากิน จัดเป็นพวกตายด้าน
พวกที่เก๊กนงไม่ไป ใครสอนให้ไม่เอา จัดเป็นพวกดื้อด้าน
พวกที่ออแล้วก็ยังอีก ใครห้ามก็ไม่ฟัง จัดเป็นพวกดื้อดีง
ลักษณะที่สุดยิ่งของขันติ คือตลอดเวลาที่อตนอยู่นั้น จะต้อง
มีใจผ่องใส ไม่เศร้าหมอง
เราสรุปลักษณะของขันติโดยย่อได้ดังนี้