จิตใจไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ๓๓๕ มงคลชีวิต ฉบับทางก้าวหน้า หน้า 360
หน้าที่ 360 / 433

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงการมีจิตใจที่ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม โดยการแนะนำให้มีทัศนคติในการเผชิญกับความรู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ การรักษาสมาธิและการพัฒนาปัญญาเพื่อมองเห็นอิสรภาพ โดยอธิบายว่าความทุกข์ที่เข้ามาเป็นสัญญาณที่ดีในการเติบโตทางจิตใจ เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบาก แสดงว่าเรากำลังใกล้สู่ความสว่าง ยิ่งมีทุกข์มากแสดงว่าใกล้ถึงการเกิดปัญญา.

หัวข้อประเด็น

- ความไม่หวั่นไหว
- การเผชิญความทุกข์
- การฝึกสมาธิ
- การพัฒนาปัญญา
- อิสรภาพในจิตใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

จิตใจไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ๓๓๕ ขอเตือนใจ โบราณท่านสอนว่า อยากจะรู้ว่าใครถึงควรตักตวงได้ยากแล้วจะพิฆาตปันอัตตรวงแคไหน ให้ดูอย่างนี้ ถ้าคนนันเวลาดีใจ ได้ของดีก็แฮะๆ ก็เฉยๆ ยิ่งเลยว่า เมื่อถึงควรเสียใจ เสีบฉลาวา เขาก็จะร้องให้โอ๋ เป็นบ้างร้องเขียว ตรงกันข้าม ถาเวลาดีใจเขาก็แค่ยิ้ม ๆ ก็เลยว่าถึงตอนเสียใจ อย่างมากก็จะแค่ตฟืน หรือนั่งไกล้พักแล้วก็ลาย นี่เป็นอย่างนี้ ท่านจึงให้ข้อเตือนใจไว้ว่า “ถ้าดีใจก็ยิ้มเพียงมุมปากเดียว เมื่อถึงควรเสียใจก็ได้ไม่ถึงกับร้องไห้” และยังให้กำลังใจสำหรับผู้ที่อยู่ในความทุกข์อีกว่า “ยิ่งมีแต่ไหน แสดงว่ายิ่งดี ยิ่งดีเท่าไหร่ ก็แสดงว่ายิ่งใกล้สว่าง” เพราะฉะนั้นจะเจอความทุกข์ขนาดไหน ความเสื่อมลาภ เสื่อมศักดิ์ ถูกนินทานปาถิ ไส้ทำนาคดีไปเกิด ยิ่งเจอหนักมากขึ้นแสดงว่ายิ่งจะพบแล้วละ เหมือนยิ่งดีียิ่งใกล้สว่าง นอกจากนีเราทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกสมาธิภาวนา จนใจหยุดใจนิ่ง ตั้งนเป็นสมาธิ เกิดปัญญาสว่างไสว เห็นอิสรภาพ ๕ และทำพรานให้แจ้งให้ได้ จึงจะมีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรมอย่างแท้จริง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More