ข้อความต้นฉบับในหน้า
จิตใจไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ๓๓๕
ขอเตือนใจ
โบราณท่านสอนว่า อยากจะรู้ว่าใครถึงควรตักตวงได้ยากแล้วจะพิฆาตปันอัตตรวงแคไหน ให้ดูอย่างนี้
ถ้าคนนันเวลาดีใจ ได้ของดีก็แฮะๆ ก็เฉยๆ ยิ่งเลยว่า เมื่อถึงควรเสียใจ เสีบฉลาวา เขาก็จะร้องให้โอ๋ เป็นบ้างร้องเขียว
ตรงกันข้าม ถาเวลาดีใจเขาก็แค่ยิ้ม ๆ ก็เลยว่าถึงตอนเสียใจ อย่างมากก็จะแค่ตฟืน หรือนั่งไกล้พักแล้วก็ลาย นี่เป็นอย่างนี้
ท่านจึงให้ข้อเตือนใจไว้ว่า “ถ้าดีใจก็ยิ้มเพียงมุมปากเดียว เมื่อถึงควรเสียใจก็ได้ไม่ถึงกับร้องไห้”
และยังให้กำลังใจสำหรับผู้ที่อยู่ในความทุกข์อีกว่า
“ยิ่งมีแต่ไหน แสดงว่ายิ่งดี ยิ่งดีเท่าไหร่ ก็แสดงว่ายิ่งใกล้สว่าง”
เพราะฉะนั้นจะเจอความทุกข์ขนาดไหน ความเสื่อมลาภ เสื่อมศักดิ์ ถูกนินทานปาถิ ไส้ทำนาคดีไปเกิด ยิ่งเจอหนักมากขึ้นแสดงว่ายิ่งจะพบแล้วละ เหมือนยิ่งดีียิ่งใกล้สว่าง
นอกจากนีเราทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกสมาธิภาวนา จนใจหยุดใจนิ่ง ตั้งนเป็นสมาธิ เกิดปัญญาสว่างไสว เห็นอิสรภาพ ๕ และทำพรานให้แจ้งให้ได้ จึงจะมีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรมอย่างแท้จริง