ข้อความต้นฉบับในหน้า
জิตเกษม ๓๕๓
ชาติมาแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะถูกชาญด้วย โยคะ แปลว่าเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภาพ มีอยู่ ๔ ประการ ได้แก่
1. กามโยคะ คือความยินดีพอใจในภาพ ของคุณ อยากฟังเพลงเพราะ ๆ อยากกินอาหารอร่อย ๆ ได้สวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ นุ่มนวลสบาย อยากเห็นรูปงาม ๆ ได้สัมผัสที่นุ่มนวล ได้แฟนสวย ๆ มีสมบัติเยอะ ๆ ความใคร่ทั้งหลายเหล่านี้เป็นเหมือนเชือกเกลียวแรกที่ผูกมัดตัวเราไว้
2. ภวโยคะ คือความยินดีพอใจในรูปานและอรูปาน คนที่พ้นเชือกเกลียวแรก พ้นจากโยคะมาได้ ก็มาเจอเชือกเกลียวที่ 2 นี้ คือเมื่อได้เจอสุขจากภาพจากใจเริ่มสงบ ทำสมาธิจนได้รูปานหรืออรูปานก็พอใจ ยินดีตลอดอยู่ในความสุขจากอามนของภาพ ตายไปก็ไปเกิดเป็นรูปพรหม หรืออรูปพรหม ซึ่งก็ติ่งไมพันธุ์ หมดบุญก็ต้องลงมาเกิดเจออันอีก นี้เป็นเหมือนเชือกเกลียวที่ 2
3. ทิฎฐิโยคะ คือความยึดถือความคิดเห็นผิด ๆ ของตนเอง เช่น เห็นว่าพอแม่ไม่มีพระคุณตนบ้าง เห็นว่าโลกนี้โลกหน้าไม่มีจริงบ้าง เห็นว่าตนเองจะพ้นทุกข์ได้ด้วยการบวงสรวงอวโลกนวนนบ้าง ใจยังมืดอยู่ ยังไปหลงยึดความเห็นผิด ๆ อยู่ สิ่งนี้เลยเป็นเหมือนเชือกเกลียวที่ 3
4. อวิชชาโยคะ คือความไม่รู้แจ้งในพระสัทธรรม ความว่างของใจยังไม่พอ ยังไม่เห็นอริยะสัจ ๔ ไม่เห็นทางพ้นทุกข์นี้เป็นเหมือนเชือกเกลียวที่ 4
ทั้ง 4 อย่างนี้ เป็นเหมือนเชือก 4 เกลียว ที่ผูกมัดตัวเราไว้กับภาพ ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารโดยไม่รู้อันสิ้น ทำให้ต้องพบกับภัยทั้งหลาย ดังนี้ไม่หยุดทีเดียว