ข้อความต้นฉบับในหน้า
งานไม่คั่งค้าง ๑๒๓
ฉันทะ คือความรักงาน จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราเห็นผลดีของงานว่า ถ้างานนั้นแล้วจะได้อะไร เช่น เรียนหนังสือแล้วจะได้ความรู้ประกอบอาชีพ เมื่อรุ่งเรืองแล้ว เราก็จะเกิดความเต็มใจทำ คนส่งงานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความพอใจให้แก่ผู้ทำ ควรจะให้เขาด้วยว่า ทำแล้วจะเกิดผลดีอย่างไร หรือถ้าไม่ทำจะเสียผลมากไหน ผู้ส่งงานบางคนใช้คำงานว่า ทำให้เต็มใจของพาเหรอ เหนียวๆคำเหม่่น เหยียดหยามไปพลาง เป็นการทำลายกำลังใจของผู้ทำ นับว่าเป็นผิดอย่างยิ่ง
วิริยะ คือความพากเพียร ความไม่ท้อถอย เป็นคุณธรรมทางใจ เรียกความรู้สึกนี้ว่า ความกล้า อยากรู้ว่าถ้าจะอย่างไร ต้องทุงตรงข้ามเสียก่อน คำทางความเกี่ยวข้องคน เกี่ยวกันทุกคนและทุกครั้ง คือคนขลาด คนกลัว กลัวหนาว กลัวร้อน กลัวแดด กลัวฝน จะทำงานแต่ละครั้งเป็นต้องอ้างว่านาวจะตาย ร้อนจะตาย หิวจะตาย อิ่มจะตาย เหนื่อยจะตาย ง่วงจะตาย คนเกี่ยวครันทุกคนตายวันละไม่กี่ร้อยครั้ง
การเอาชนะคำบ่นของความเกี่ยวครันเสียได้ ท่านเรียกว่า วิริยะ คือ ความเพียร หรือความกล้านั่นเอง แม้จะมีอุปสรรคเพียงใด แต่ก็จะมีความแข็งใจทำ และการจะมีความเพียรขึ้นมาได้ จำเป็นต้องละเว้นจากายมูให้ได้เสียก่อน
มีข้อนำสังเกตสำหรับคนทำงานร่วมกันคือ จะต้องยืนยันด้วยกันทั้งหัวหน้าและลูกน้องจึงจะได้เรื่อง ยิ่งผู้เป็นหัวหน้าที่สำคัญมาก ถ้าเป็นคนเกี่ยวครัน คิดกันแรงผู้น้อยเท่าเดียว คิดเตวา “ให้แก้วน้ำเท่าจะล่อน้ำแกง” ผู้นอ ยังกยืนไปไม่ได้บ่น้ำ ประเดี๋ยก็ริ้วมือกันหมด แต่ถ้าหัวหน้าเอาการเองงาน ก็ยังผ่อนให้ยืนขึ้นแข็งขึ้นด้วย
"ฐานะ ๔ อย่างคือ ความชอบนอน ความชอบคุย ความไม่มัน ความเกี่ยวครัน และความโกรธร้าย พระมิ่งพระภาคเจ้าตรัสว่า เป็นทาง