ข้อความต้นฉบับในหน้า
รูปแบบการถือกำเนิดกายหยาบของสรรพสัตว์ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ โดย
กรรมจำแนกให้ถือกำเนิดแบบต่ำต้อยด้อยคุณภาพ หรือให้ถือกำเนิดแบบละเอียดอ่อนมีคุณภาพ ได้แก่
1. แบบชลาพุชะ คือ ถือกำเนิดในครรภ์
2. แบบอัณฑชะ คือ ถือกำเนิดในฟองไข่
3. แบบสังเสทชะ คือ ถือกำเนิดในเหงื่อไคล ของเน่าเสีย ของโสโครก
4. แบบโอปปาติกะ คือ ถือกำเนิดแล้วเติบโตทันที
เมื่อเหล่าสัตว์ถือกำเนิดตามรูปแบบโดยจำแนกไปตามกรรมของตนแล้ว ระหว่างการดำรงชีวิต
เมื่อละโลกแล้วจะแยกขอบเขตภพภูมิที่รองรับการเวียนเกิด
ยังประกอบกรรมมากมายทั้งดีและชั่วสลับกัน
เวียนตายของสรรพสัตว์ในสังสารวัฏออกเป็น 2 คติ คือ
1. สุคติภูมิ คือ สถานที่รองรับผู้ที่กระทำความดี มีความเป็นอยู่สุขสบายทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ผู้ที่จะมาบังเกิดในภพภูมินี้จะต้องเป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล คือ มีความเห็นถูกในเรื่องกฎแห่งกรรม มีจิตใจสูง
ส่งเป็นกุศลธรรม จึงชักนำให้ประกอบกุศลกรรม 3 ทาง ได้แก่ ทางกาย ทางวาจา และทางใจ เมื่อละโลก
ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่ประกอบไว้ขณะมีชีวิต จะไปบังเกิดอยู่ในสุคติภูมิ ได้แก่ มนุษยภูมิ เทวภูมิ แต่ก็ยัง
เป็นภพภูมิของสัตว์ที่ยังไม่สิ้นกิเลสยังต้องเวียนเกิดเวียนตาย ซึ่งอาจจะพลาดพลั้งเผลอสติทำอกุศลกรรมได้
แต่ถ้าว่าสามารถทำลายกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นได้ก็จะเข้าสู่พระนิพพาน ไม่ต้องหวนกลับมาเกิดในภพ 3 คือ
กามภพ รูปภพ อรูปภพ อีกต่อไป กิเลสไม่สามารถครอบงำ กรรมที่รอส่งผลจำนวนมากก็จะไม่สามารถให้
ผลได้อีกต่อไป เพราะกิเลสจะครอบงำได้เฉพาะสัตว์ที่บังเกิดในภพ 3
พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้จะได้บังเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา แล้วก็ตาม แต่การจะได้กลับมาเกิดใน
สุคติภูมิเช่นนี้อีกยากมาก และก็มีน้อยมาก ทรงอุปมาดังต่อไปนี้ คือ
ทรงอุปมา สัตว์ที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เปรียบเหมือนฝุ่นในเล็บมือมีปริมาณน้อยกว่าฝุ่นทั้งแผ่นดิน
ฉันใด สัตว์ที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมีน้อยเหมือนฝุ่นในเล็บมือ ส่วนสัตว์ที่จะไปเกิดในอบายมีมาก
เหมือนฝุ่นทั้งแผ่นดิน ฉันนั้น
ทรงอุปมา มนุษย์และเทวดาจะจุติกลับมาเกิดเป็นมนุษย์และเทวดาอีกนั้นมีน้อย เหมือนฝุ่นใน
เล็บมือ แต่มนุษย์และเทวดาที่จุติแล้วไปบังเกิดในอบายภูมิมีมากกว่า เหมือนฝุ่นทั้งแผ่นดิน
จูฬกัมมวิภังคสูตร, มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์, มก. เล่ม 23 ข้อ 580 หน้า 251
2 สามัญญผลสูตร, ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค, มก. เล่ม 11 ข้อ 137 หน้า 332
ในขลิขสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 663 หน้า 727
* อามกธัญญเปยยาล, สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค, มก. เล่ม 31 ข้อ 1792 หน้า 503
10 DOU กฎ แ ห่ ง ก ร ร ม