มิจฉาทิฏฐิและสัมมาทิฏฐิ: ความเข้าใจที่ถูกต้อง GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 39
หน้าที่ 39 / 214

สรุปเนื้อหา

มิจฉาทิฏฐิหมายถึงความเห็นผิดที่ก่อให้เกิดกรรมชั่วและปฏิเสธกฎแห่งกรรม ในขณะที่สัมมาทิฏฐิเป็นความเห็นถูกที่นำไปสู่การพัฒนาตนเอง การเข้าใจมิจฉาทิฏฐิช่วยให้เห็นคุณค่าของสัมมาทิฏฐิซึ่งมีประโยชน์ในการพัฒนาสังคมและลดปัญหาความทุกข์ในชาตินี้และชาติหน้า เพราะมิจฉาทิฏฐิมีโทษยิ่งกว่ากรรมชั่วใดๆ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเห็นแก่ผลดีนี้จึงมีความสำคัญในสายตาของพระพุทธองค์

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของมิจฉาทิฏฐิ
-ประเภทของมิจฉาทิฏฐิ
-โทษของมิจฉาทิฏฐิ
-ความสำคัญของสัมมาทิฏฐิ
-การพัฒนาตนเองด้วยกรรมดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

7) มารดาไม่มี 8) บิดาไม่มี 9) อุปปาติกสัตว์ไม่มี 10) ในโลกนี้ไม่มีสมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ชนิดที่ทำให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่งเอง แล้ว ประกาศโลกนี้และโลกหน้า ทั้งหมดนี้เรียกว่า ความเห็นผิด หรือเรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ ถ้าคนใดคิดเห็นเช่นนี้ก็จะเรียกว่า มิจฉาทิฏฐิบุคคล เพราะคนที่เห็นผิดไม่ได้คิดอย่างเดียวแต่เขาปฏิบัติตามความคิดของตนด้วย ซึ่งสามารถ จัดกลุ่มแนวความคิดเห็นผิดๆ พวกนี้ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ 1.3.1 นัตถิกทิฏฐิ มีความคิดเห็นว่า ผลของกรรมไม่มีใจไม่มีกลุ่มนี้หลงถือว่าตนเป็นพวกหัวก้าวหน้า ช่างคิดหาเหตุผล แต่ทว่าดื้อรั้น ทำตัวเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ มีความเห็นผิด 1.3.2 อกิริยทิฏฐิ มีความคิดเห็นว่า บุญและบาปไม่มี คือ ใครก็ตามที่ทำกรรมดีด้วยตนเอง หรือสั่งให้ผู้อื่นทำ เขาก็ไม่ได้บุญ และใครก็ตามที่ทำกรรมชั่ว หรือสั่งให้ผู้อื่นทำ เขาก็ไม่ได้บาป ปฏิเสธ กฎแห่งกรรมและศีลธรรมอย่างสิ้นเชิง 1.3.3 อเหตุกทิฏฐิ มีความคิดเห็นว่า ไม่มีเหตุปัจจัยที่ทำให้คนเราเศร้าหมองหรือบริสุทธิ์ ทุกข์ หรือสุข จึงเห็นว่าชีวิตของคนเราแปรผันไปตามเคราะห์กรรม ความเกิดและภาวะ คือเชื่อดวง จึงไม่คิด พัฒนาตนด้วยกรรมดี หรือจะกล่าวว่ากรรมที่บุคคลทำไว้แล้วในอดีตไม่มีผลไปถึงในอนาคต ทุกอย่างมัน เป็นไปของมันเอง เรามีหน้าที่อยู่นิ่งๆ เฉยๆ ก็พอ ดังนั้น มิจฉาทิฏฐิเป็นเหตุให้ใจคนเรามืดมิดด้วยอำนาจกิเลส แล้วผลักดันบีบคั้นให้ก่อกรรมชั่วต่างๆ ซึ่งนอกจะก่อให้เกิดทุกข์เกิดปัญหาสังคมในชาตินี้แล้วยังจะพาตนและเพื่อนร่วมชาติไปนรกในชาติหน้าอีกด้วย เพราะเหตุนี้พระพุทธองค์จึงตรัสว่ามิจฉาทิฏฐินั้นมีโทษยิ่งกว่าอกุศลธรรมใดๆ เป็นการแสดงความไม่รับผิด ชอบต่อสิ่งใดๆ ทั้งปวง ปฏิเสธคัดค้านสิ่งดีๆ ทุกอย่าง ทำไมเราจึงต้องเรียนรู้เรื่องมิจฉาทิฏฐิ มีหลักให้คิดอยู่ว่า คนที่คุ้นเคยกับความสกปรก เมื่อมีใคร พูดสรรเสริญความสะอาด เขาก็จะจินตนาการไม่ออกว่า สิ่งที่เรียกว่าความสะอาดเป็นอย่างไร มีคุณ ประโยชน์จริงหรือไม่ประการใด ต่อเมื่อเขาได้เห็นทั้งสองสิ่ง คือความสกปรก และความสะอาดเปรียบเทียบ กันแล้ว เขาจะเข้าใจทันทีว่า ความสะอาดนี้ช่างมีคุณค่าเหลือหลาย โดยทำนองเดียวกันการที่บุคคลเกิด สัมมาทิฏฐิเห็นถูกอย่างถ่องแท้ ก็จำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องที่ทำให้เกิดความเห็นผิดอย่างถ่องแท้ด้วย มิฉะนั้นก็จะยังสงสัยลังเลทั้งคุณของสัมมาทิฏฐิ ทั้งโทษของมิจฉาทิฏฐิ ว่าด้วยมิจฉาทิฏฐิและสัมมาทิฏฐิ, อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต, มก. เล่ม 33 ข้อ 183 หน้า 182 บท ที่ 1 ค ว า ม รู้เบื้ อ ง ต้ น เ รื่ อ ง ก า แ ห่ ง ก ร ร ม เ DOU 29
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More