อดีตโจรผู้มีหนวดเคราสีแดงและการเปลี่ยนแปลงชีวิต GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 75
หน้าที่ 75 / 214

สรุปเนื้อหา

เนื้อเรื่องเล่าถึงอดีตโจรผู้มีหนวดเคราสีแดงที่ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตมานานถึง 55 ปี จนถึงวันที่เขาแก่ตัวและถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่มีโอกาสได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเมื่อพบพระสารีบุตรในวันที่เขาเตรียมอาหารดีเลิศที่จะบริโภค โดยเขาตัดสินใจถวายอาหารให้พระ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของเขาและผลทำให้เขาบรรลุพระโสดาบัน ทำให้เขาเริ่มหันมาใช้ชีวิตในทางที่ดีขึ้นและห่างไกลจากความรุนแรงที่เคยทำ

หัวข้อประเด็น

-อดีตโจร
-บทเรียนชีวิต
-การเปลี่ยนแปลงจิตใจ
-การทำบุญและกรรม
-ความเมตตาและการช่วยเหลือ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อดีตโจรผู้มีหนวดเคราสีแดงรับหน้าที่เพชฌฆาตฆ่าโจรและผู้ต้องโทษประหาร โดยมีค่าจ้างเป็น ผลตอบแทน ทำหน้าที่ประหารโจรประจำเมืองเป็นเวลายาวนานถึง 55 ปี ต่อมาเขาแก่ชราลง เรี่ยวแรงที่ จะยกดาบประหารโจรให้คอขาดไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องฟันซ้ำถึง 2-3 ครั้ง ทำให้โจรต้องโทษ ประหารทั้งหลายได้รับความทรมานมากกว่าจะตายรวมทั้งก่อให้เกิดความสังเวชแก่หมู่ชนผู้มาดูการประหาร เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจึงกราบทูลพระราชาขอให้ปลดเขาออกจากหน้าที่ และตั้งบุรุษอื่นที่แข็งแรงทำหน้าที่ เพชฌฆาตแทน เช้าวันที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง เขาได้รับบำเหน็จรางวัลเป็นจำนวนมาก จึงคิดที่จะนุ่งผ้าใหม่ ทัดทรงดอกไม้หอม และบริโภคข้าวปายาสรสประณีต ซึ่งเขาไม่เคยบริโภคเลย เมื่อคิดดังนั้น เขาจึงเข้าไป สู่ตลาดเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการ และได้มอบเงินส่วนหนึ่งให้ภรรยาพร้อมทั้งสั่งว่าให้จัดเตรียมอาหารที่ดี ที่สุดไว้ให้แก่เขา จากนั้นเขาจึงไปสู่ท่าน้ำ อาบน้ำขัดสีกายโกนหนวดเครา นุ่งผ้าใหม่ชโลมกายด้วยเครื่อง หอมและทัดทรงดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม จากนั้นจึงเดินขึ้นบ้าน นั่งบนที่นั่งรอบริโภคอาหาร ภรรยาของเขา เมื่อปรุงอาหารอันประณีตรสเลิศเสร็จแล้วจึงนำมาวางตรงหน้าและเชื้อเชิญให้เขาบริโภค ในเช้าวันนั้นเอง พระสารีบุตรออกจากนิโรธสมาบัติ พิจารณาว่าวันนี้จะไปโปรดผู้ใด พิจารณา เห็นอดีตโจรเคราแดงผู้เป็นเพชฌฆาตปรากฏในข่ายญาณ และเห็นว่าเมื่อไปโปรดเขาในวันนี้เขาจะได้ สมบัติใหญ่ อันใครๆ ในโลกไม่อาจมอบให้แก่เขาได้ เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ท่านจึงครองจีวรถือบาตรไป แสดงตนรออยู่ที่ประตูบ้านของนายเคราแดงด้วยฤทธิ์ นายเคราแดงซึ่งกำลังจะลงมือบริโภคอาหารแลเห็น พระสารีบุตรมายืนอยู่ตรงหน้าจึงเกิดความเลื่อมใส ดีใจว่า ที่ผ่านมาตนเองฆ่าคนตายเป็นจำนวนมาก ไม่เคยได้ประกอบการกุศลเลยแม้แต่ครั้งเดียว บัดนี้เป็นโอกาสดี เพราะอาหารอย่างดีเลิศก็มีอยู่ พระ สารีบุตรผู้เป็นเถระผู้ใหญ่ก็มาโปรดถึงประตูบ้าน นับเป็นความโชคดียิ่ง ควรที่ตนจะถวายอาหารบิณฑบาต ดีกว่าที่จะบริโภคด้วยตนเอง คิดดังนั้น เขาจึงลุกขึ้น เข้าไปหมอบนมัสการกล่าวอาราธนาพระสารีบุตรเข้าไปนั่งในบ้าน นำ อาหารที่ตนตั้งใจจะบริโภค ใส่ลงในบาตร นำไปถวายเพื่อให้พระสารีบุตรฉัน แล้วตัวเขาได้ยืนพัดอยู่ใกล้ๆ ด้วยความเลื่อมใส เมื่อพระสารีบุตรฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว และจะกล่าวอนุโมทนา แต่เขาไม่สามารถส่งจิตไปตาม กระแสพระธรรมเทศนาได้ พระสารีบุตรจึงถามถึงเหตุที่เขาไม่ตั้งใจสดับธรรมกถา เขาตอบว่า เขาได้ ทำบาปฆ่าคนมามากมาย เมื่อระลึกถึงกรรมที่ทำจึงไม่สามารถตั้งจิตให้เป็นสมาธิฟังพระธรรมเทศนาได้ เมื่อทราบเหตุดังนั้นพระสารีบุตรจึงคิดอุบายถามเขาว่า การที่เขาฆ่าคนมากมายนั้น เขาเต็มใจฆ่าหรือ คนอื่นใช้ให้ฆ่า เมื่อเขาตอบว่าฆ่าตามหน้าที่ไม่ได้สมัครใจทำ พระสารีบุตรจึงถามอีกว่าแล้วการฆ่าคนของเขา จะเป็นอกุศลกรรมหรือไม่ เขาก็คิดเอาเองว่าไม่บาปจึงนิมนต์ให้พระสารีบุตรแสดงธรรม ซึ่งเขาเองก็ตั้งใจ ฟังธรรมนั้น เมื่อจบเทศนาเขาได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน เพราะอุปปีฬกกรรมฝ่ายกุศลอุดหนุน บ ท ที่ 3 ก ร ร ม ห ม ว ด ที่ 1 ก ร ร ม ใ ห้ ผ ล ต า ม ห น้ า ที่ DOU 65
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More