กรรมหมวดที่ 3 กรรมให้ผลตามกาลเวลา GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 110
หน้าที่ 110 / 214

สรุปเนื้อหา

บทนี้ได้เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผลของกรรมตามพระพุทธศาสนา โดยชี้ให้เห็นว่าผลกรรมไม่สูญหายไปไหน และจะให้ผลตามเวลาและการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นอกุศลกรรมหรือกุศลกรรมก็มีลำดับการให้ผลของตนเอง นักเรียนจะได้เห็นว่าความเชื่อบางอย่างในสังคมเกี่ยวกับกรรมอาจนำไปสู่การท้อแท้ในการทำความดี หรือการคล้อยตามความคิดที่ว่าผลของกรรมไม่มีจริง โดยที่ในความเป็นจริงกรรมสามารถติดตามให้ผลข้ามภพชาติได้อย่างแน่นอน เมื่อกรรมเก่าหมดลง กรรมใหม่จะเริ่มให้ผล ซึ่งคำสอนจากพระพุทธเจ้าช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในหลักธรรมนี้อย่างลึกซึ้ง

หัวข้อประเด็น

-ความเชื่อเกี่ยวกับกรรม
-ผลของกรรมในพระพุทธศาสนา
-อกุศลกรรมและกุศลกรรม
-การให้ผลของกรรมตามเวลา
-ความท้อแท้ในการทำความดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บทที่ 5 กรรมหมวดที่ 3 กรรมให้ผลตามกาลเวลา ปัจจุบันคนในสังคมจำนวนไม่น้อยเริ่มไม่เชื่อว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” บางคนคิดว่า “ผลของ กรรมไม่มี ตายแล้วไม่มีการเกิดอีก” เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา อย่างถ่องแท้ จึงมีความเห็นคล้อยตามคำกล่าวที่ว่า “คนทำชั่วได้ชั่วมีที่ไหน คนทำชั่วได้ดีมีถมไป “ผลของกรรมไม่มี ตายแล้วสูญ” เมื่อมีความคิดและมีความเชื่อเช่นนี้ หลายคนจึงรู้สึกท้อแท้ที่จะทำความดี แต่จากการศึกษาเนื้อหาในบทเรียนที่ผ่านมา นักศึกษาจะพบว่าเรื่องของกรรมมีความซับซ้อนมาก เพราะ และลำดับในการให้ผลอย่างชัดเจนที่จะคอยให้ผลแก่ทุกคนที่กระทำ ไม่ว่าจะเป็นอกุศล กรรมหรือกุศลกรรมก็ตามทั้งในอดีตชาติและในปัจจุบันชาติ ไม่มีใครสามารถหลบหนีไปได้ เนื่องจากจิต เป็นสภาพที่สะสมกิเลสและกรรม และทำหน้าที่สืบทอดกรรมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ากรรมนั้นจะให้ผลเสร็จสิ้น เช่น เมื่อเราแอบขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นโดยไม่มีใครรู้เห็น เราอาจจะคิดว่ารอดตัวไป เพราะไม่มีใครจับได้ แต่ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า จิตเป็นสภาพที่สืบทอดกิเลสและกรรม ดังนั้นกรรมที่เราได้กระทำไว้จึงไม่ได้ กรรมก็มีหน้าที่ สูญหายไปไหน แต่จะให้ผลของกรรมนั้นอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลาที่กรรมให้ผลก็จะทำให้เราสูญเสีย ทรัพย์สินโดยที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เช่น ลงทุนทำอะไรก็ขาดทุนอยู่เสมอ หรือถูกปล้น ถูกลักขโมยทรัพย์สิน เป็นต้น การศึกษาเรื่องของกรรมจะทำให้เราแน่ใจได้ว่า “กรรมนั้นจะให้ผลอย่างแน่นอน” ถึงแม้กรรม นั้นอาจจะไม่ได้ให้ผลทันทีในชาติที่ทำอกุศลกรรม แต่อกุศลกรรมนั้นสามารถติดตามให้ผลข้ามภพชาติได้เพียง แต่จะให้ผลเมื่อไรเท่านั้น เพราะชาตินี้เขายังมีปโยคสมบัติ ประกอบกับกุศลกรรมที่เคยกระทำมาใน อดีต ชาติยังมีกำลังให้ผลอยู่ อกุศลกรรมที่กระทำใหม่นั้นก็ยังต้องรอโอกาสที่จะให้ผลไปก่อน ต่อเมื่อการให้ ผลของการกระทำกุศลกรรมของเขาหมดกำลังลงเขาย่อมได้รับผลของอกุศลกรรมนั้นแน่นอน ดังคำกล่าวที่ว่า “คนที่ทำกรรมชั่วมักจะไม่เชื่อเรื่องการให้ผลของกรรมตราบใดที่กรรมชั่วนั้นไม่ให้ผลเนื่องจาก ผลของกุศลกรรมเก่ายังให้ผลไม่หมด ทำให้ลำพองใจคิดว่าผลของกรรมชั่วไม่มี ชาติหน้าก็ไม่มี ทำชั่วอย่างไรก็ไม่มีผล เพราะไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ส่วนผู้ที่ทำกรรมดีก็ภาวนาให้กรรมดีที่ได้ กระทำนั้นให้ผลไวๆ เมื่อกรรมดียังไม่ให้ผล ก็เกิดความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง และคิดว่าผลของกรรมดี ไม่มีอีกเช่นกัน” ซึ่งคำกล่าวนี้เป็นไปตามพระพุทธพจน์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า * ปโยคสมบัติ คือ การเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความเพียรในการประกอบหน้าที่การงาน 100 DOU ก ก แ ห่ ง ก ร ร ม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More