ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระสกทาคามี ท่านจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเพียงชาติเดียวก็จะทำลายอาสวกิเลสได้หมดสิ้น
เพราะท่านละกิเลสสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการ และกำจัดราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบาง
พระอนาคามี 5 ระดับ ท่านจะไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เพราะท่านละกิเลสสังโยชน์เบื้อง
ต่ำ 5 ประการ และละสังโยชน์เบื้องสูง 2 ประการ คือ กามราคะ (กำหนัดในกิเลสกาม) และปฏิฆะ(ความ
ขุ่นเคือง) เมื่อละโลกแล้วจะไปบังเกิดเป็นพรหมชั้นสุทธาวาสและปรินิพพานในพรหมโลกนั้นเลย
พระอรหันต์ คือ พระอริยบุคคลขั้นสูงสุด การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารของท่านจบสิ้นลงแล้ว
กรรมและวิบากทั้งปวงที่รอส่งผลในอนาคตกาลยุติแล้ว กิเลสอาสวะยุติการครอบงำบังคับบัญชา เพราะ
ว่าท่านดำรงอยู่ในสภาวะที่ดับสิ้นแห่งกิเลสอาสวะ นั่นคือ พระนิพพาน
ดังนั้น สังสารวัฏเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพงศ์วงตระกูล ต้องศึกษาทำความ
เข้าใจ ไม่รู้ไม่ได้ เพราะถ้าไม่รู้ การดำเนินชีวิตจะไม่ปลอดภัยจากกิเลสอกุศล เมื่อเข้าใจเรื่องสังสารวัฏจะ
ทำให้เห็นช่องทางปฏิบัติเพื่อนำพาตนเองไปสู่ทางหลุดพ้นยกตนออกจากกองทุกข์ ถือว่าเป็นโอกาสที่เกิด
ขึ้นได้ยากสำหรับการได้เกิดเป็นมนุษย์อย่างเราท่านทั้งหลาย เพราะเป็นสภาวะเดียวที่เหมาะสมต่อการ
สร้างกรรมได้เต็มที่ ไม่ว่ากรรมดี หรือกรรมชั่ว มนุษยโลกจึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งการทำกรรมดี
กรรมชั่วทั้งปวง เนื่องจากมนุษย์มีรูปกายแข็งแรงทรหดอดทนเหมาะแก่การสร้างกรรมอันเป็นเสบียง
สำหรับการเดินทางในสังสารวัฏ ถ้าสร้างกรรมดีก็เสวยสุขในสุคติภูมิยาวนาน แต่บุญกุศลที่สั่งสมไว้ก็หมด
ได้หากไม่หมั่นสร้างบุญเพิ่มเติม ถ้าสร้างกรรมชั่วก็เสวยทุกข์ในทุคติภูมิยาวนานเช่นกัน และบาปอกุศลที่
สั่งสมไว้ก็มีสิทธิ์จะหมดได้เช่นกัน ถ้าไม่สร้างบาปเพิ่มเติม
1.2 กฎแห่งกรรมตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
1.2.1 ผู้เปิดเผยกรรม
ได้ทรงค้นพบทรงทอดพระเนตร
ในตอนต้นของบทที่ 1 ได้ยกพุทธพจน์ที่พระพุทธองค์ตรัสอุทานว่า
เห็นศัตรูที่แท้จริงของหมู่สัตว์ ผู้บงการอยู่ฉากหลังบังคับบัญชาหมู่สัตว์ด้วยเครื่องมือคือกิเลส เป็นเหตุให้
สร้างกรรมอันเป็นผลทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่นาน พระองค์ทอดพระเนตรเห็นวงจรสังสารวัฏในวัน
ตรัสรู้ธรรม เพราะทรงบรรลุวิชชา 3 ดังนี้
ปฐมยาม ยามต้นแห่งราตรี บรรลุวิชชาที่ 1 ปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือ ระลึกชาติหนหลัง
ของพระพุทธองค์เอง(อตีตังสญาณ) ตรวจดูอดีตชาติด้วยธรรมจักษุ จึงได้รู้ว่าเคยเวียนเกิดเวียนตายมา
แล้วนับไม่ถ้วน เคยเกิดมาแล้วทุกอย่างตั้งแต่ยาจกจนถึงพระราชา ถ้าจะเอากระดูกมากองรวมกันมีมาก
กว่าภูเขาเสียอีก หรือเอาเลือดที่หลั่งไหล น้ำตาที่นองหน้ามารวมกัน ก็ยังมีมากกว่าน้ำในมหาสมุทร
บ ท ที่ 1 ค ว า ม รู้เบื้ อ ง ต้ น เ รื่ อ ง ก า แ ห่ ง ก ร ร ม DOU 13