ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยาวนานผ่านขั้นตอนทางประวัติศาสตร์มาหลายขั้นตอน ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน
ศาสนาพราหมณ์เป็นศาสนาประเภทพหุเทวนิยมนับถือพระเจ้าหลายองค์ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ดั้งเดิมเป็นเอกเทวนิยม คือ นับถือพระพรหมองค์เดียวเท่านั้น ต่อมามีวิวัฒนาการกลายเป็นศาสนา
ประเภทพหุเทวนิยม นับถือเทพเจ้ามากมาย แต่เทพผู้เป็นใหญ่มี 3 องค์ คือ พระพรหม ผู้สร้างโลก พระศิวะ
ผู้ทำลาย พระวิษณุ ผู้รักษาสิ่งต่างๆ ให้เป็นปกติ เทพทั้ง 3 องค์รวมกันเรียกว่า ตรีมูรติ
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาเดียวกัน โดยศาสนาฮินดูพัฒนามาจากศาสนาพราหมณ์
และเกิดในยุคพระเวท พวกอารยันซึ่งเป็นพวกผิวขาวได้เดินทางมาจากตอนใต้ของรัสเซียเข้ามาขับไล่พวก
ดราวิเดียนซึ่งเป็นพวกผิวดำ และเป็นชนพื้นเมืองเดิมของพวกอินเดีย พวกดราวิเดียนบางพวกหนีไปอยู่
ศรีลังกาและไปเป็นชนพื้นเมืองเดิมของประเทศศรีลังกา บางพวกได้สืบเชื้อสายผสมผสานเผ่าพันธุ์กับพวก
อารยันกลายเป็นคนอินเดียในปัจจุบัน คนอารยันนับถือพระอาทิตย์ ส่วนพวกชนพื้นเมืองเดิมนับถือไฟ
จึงได้เผยแพร่ความเชื่อของตนโดยชี้ให้
พวกอารยันเห็นว่าความเชื่อของตนเข้ากันได้กับพวกดราวิเดียน
เห็นว่าดวงไฟที่ยิ่งใหญ่นั้นคือดวงอาทิตย์ จึงควรนับถือพระอาทิตย์ซึ่งเป็นที่มาของไฟทั้งปวงในโลกมนุษย์
ทำให้แนวความคิดของชนพื้นเมืองเดิมกับพวกอารยันผสมผสานเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูมีความเชื่อว่าบาปสามารถล้างได้เช่นเดียวกับศาสนาคริสต์ แต่มีพิธีกรรม
ทางศาสนาที่แตกต่างกัน ซึ่งขั้นตอนพิธีกรรมโดยละเอียดนั้น ไม่ค่อยมีปรากฏมากนัก ทราบเพียงว่า ศาสนิก
ของศาสนาพราหมณ์ในสมัยก่อน ถือว่าการได้ลงอาบน้ำชำระกายในแม่น้ำคงคามหานที เป็นการชำระมลทิน
ก่อให้เกิดความบริสุทธิ์ เพราะถือว่าแม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากพระโอษฐ์ของพระพรหม
หรือพระศิวะที่สถิตอยู่บนเขาไกรลาส แม้คนใกล้ตาย ก็จะถูกหามมายังริมฝั่งแม่น้ำคงคา เพื่อลอยอังคาร
เมื่อศพถูกเผาแล้ว ถือว่าเป็นการล้างบาปครั้งสุดท้าย แม้ปัจจุบันนี้พิธีกรรมการล้างบาปในทำนองที่กล่าว
มาแล้ว ยังคงปรากฏอยู่มากในประเทศอินเดีย เป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู มีผู้คน
นับแสนคนไปรวมกันยังฝั่งแม่น้ำคงคา เพื่อประกอบพิธีล้างบาปตามความเชื่อของตน
6.2 ทรรศนะเรื่องการล้างบาปในศาสนาพุทธ
พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่มุ่งสอนให้คนทุกคนมีความประพฤติดีงามทั้งกาย วาจา และใจ
ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามคำสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเป้าหมายสูงสุดคือการกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปโดยนัยนี้ถือว่าเป็นการล้างบาป
ในตัวอยู่แล้ว แต่มิได้ใช้คำว่าล้างบาปโดยตรงเท่านั้น เพราะคำนี้เป็นคำของศาสนาพราหมณ์ที่มีอยู่มาก
ในอินเดียก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบังเกิดขึ้น
ดังนั้น นักศึกษาจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้ทรรศนะเรื่องการล้างบาปในพระพุทธศาสนา เพื่อ
นักศึกษาจะได้เข้าใจหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
126 DOU ก ฎ แ ห่ ง ก ร ร ม
มีคำสอนที่เหมือนหรือแตกต่างจากคำสอน