กรณีศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างกรรมและสุขภาพ GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 169
หน้าที่ 169 / 214

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอกรณีศึกษาหลายกรณีที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างกรรมในอดีตและปัญหาสุขภาพในปัจจุบัน โดยกรณีแรกพูดถึงชายคนหนึ่งที่มีปัญหาโรคผิวหนังจากกรรมในอดีต ขณะที่กรณีที่สองคือหญิงที่มีโรคมะเร็งจากกรรมกาเมฯ นอกจากนี้ ยังมีกรณีศึกษาเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงินและพฤติกรรมการพูดติดอ่าง ทุกกรณีแสดงให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหาโดยการปฏิบัติธรรมและการใช้สมุนไพรในการรักษา พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลของกรรมที่มีต่อตนเอง

หัวข้อประเด็น

-ความเชื่อมโยงระหว่างกรรมและสุขภาพ
-กรณีศึกษาจากชีวิตจริง
-ผลกระทบจากกรรมในอดีต
-การรักษาด้วยสมุนไพร
-การปฏิบัติธรรมและการสร้างความเข้าใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กรณีศึกษาที่ 2 (วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2546) ชายคนหนึ่งเกิดมาในครอบครัวที่เคร่งครัดใน ลัทธิหนึ่งที่แยกออกมาจากพุทธนิกาย จึงทำให้เขาต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมของลัทธินี้ตั้งแต่เด็ก แต่ในใจ ของเขาก็ยังไม่มีความเชื่อหรือความศรัทธาเลย เมื่อโตขึ้นได้มาศึกษาเรื่องสมาธิจากประเทศต่างๆ รวมทั้ง ที่เมืองไทยด้วย ทำให้มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรมและมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี เมื่อพบกับคำตอบที่ค้างอยู่ในใจ ตนเองมาตลอดได้ จึงเกิดความศรัทธาและมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้น แต่เขาก็เป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เป็นผื่นแดงและคัน ต้องไปหาหมอเป็นประจำ สาเหตุที่ชายผู้นี้เป็นโรคผิวหนังผื่นแดงคัน เพราะกรรมในอดีตชาติเป็นคนที่ซน มีความเชื่อมั่นใน ตัวเอง และชอบล้อเพื่อนเล่น ทำให้คนที่ถูกล้อเกิดความขัดเคืองใจ และเคยแกล้งเพื่อนโดยเอาหญ้าคันไป แกล้งโรยใส่เพื่อนด้วยความคะนอง ประกอบกับในปัจจุบันที่ชอบอั้นปัสสาวะและอุจจาระเป็นเวลานาน กรณีศึกษาที่ 3 (วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2547) หญิงคนหนึ่งเป็นคนรักสวยรักงาม สนุกสนาน มีเพื่อนมาก จิตใจดี ชอบทำบุญแบบสังคมสงเคราะห์ทั่วไป แต่มีจุดอ่อนคือ วจีกรรมและรังเกียจสัตว์เล็ก เช่น ยุง แมลงสาบ เป็นต้น ต่อมาพบว่าเป็นมะเร็งที่หน้าอกและได้ลามไปที่ผิวหนัง ทำให้เกิดแผลหลายแห่ง เลือด น้ำเหลืองไหลเยิ้ม แต่รักษาหายด้วยสมุนไพรภายใน 2 เดือน แผลจึงแห้ง แต่ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง สาเหตุที่หญิงผู้นี้เป็นมะเร็งที่อก เพราะกรรมกาเมฯ ในอดีตชาติ และที่มะเร็งลุกลามไปที่ผิวหนัง เพราะกรรมในอดีตชาติที่พูดนินทาว่าร้ายหรือพูดเหน็บแนมทำให้คนเจ็บใจ กรณีศึกษาที่ 4 (วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546) ชายคนหนึ่งเป็นโรคสะเก็ดเงิน ในตอนแรกจะ เป็นที่บริเวณศีรษะและท้ายทอย ต่อมาก็ลามไปทั้งตัว มีอาการคัน เป็นผื่นบวมแดง บนแผลมีสะเก็ด เคลือบอยู่และจะหลุดร่อนเวลาถูกเสียดสีจากเสื้อผ้า ในตอนแรกที่ไปรักษา ทำให้อาการดีขึ้น แต่ภายหลัง ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งโรคนี้คุณแม่ของเขาก็เป็นเช่นกัน แต่จะเป็นน้อยกว่า โดยมีอาการเป็นๆ หายๆ สาเหตุที่ชายผู้นี้และคุณแม่เป็นโรคสะเก็ดเงิน เพราะกรรมในอดีตชาติทั้งสองได้เกิดเป็นแม่ลูก กันในตระกูลที่มีฐานะปานกลาง โดยชายผู้นี้มักมีอคติกับพระและชอบพูดจาติเตียนพระและผู้อื่นให้เสียหาย หรือบางครั้งก็มักจะนินทาว่าร้ายทำให้ผู้อื่นเสียหายลับหลังเป็นประจำ และคุณแม่ของเขาก็มีใจยินดีใน สิ่งที่ลูกทำ กรณีศึกษาที่ 5 (วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2548) หญิงคนหนึ่งเป็นคนพูดติดอ่างตั้งแต่เด็กและ บ่อยครั้งที่พูดไม่ออก ก็ต้องใช้มือตบปากตัวเอง หรือบางครั้งต้องขึ้นไปบนโต๊ะแล้วกระโดดลงมา จึงจะพูด คำนั้นออกมาได้ บางครั้งพี่ๆ ก็จะช่วยตบปากก่อนที่เธอจะตบเอง ซึ่งอาการนี้มาดีขึ้นและค่อยๆ หายไป บ า ที่ 7 ก ร ณี ศึ ก ษ า เ รื่ อ ง ก า แ ห่ ง ก ร ร ม DOU 159
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More