ข้อความต้นฉบับในหน้า
สาระสำคัญโดยย่อของพระสูตรนี้ เริ่มต้นที่ปริพาชกท่านหนึ่ง ชื่อโปตลิบุตร เข้าไปสนทนากับ
พระสมิทธิที่บวชได้เพียง 3 พรรษา ปริพาชกนี้เคยได้ยินพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่อง กายกรรมไม่จริง
วจีกรรมไม่จริง มโนกรรมเท่านั้นจริง สมาบัติที่บุคคลเข้าแล้วไม่เสวยเวทนาอะไรๆ เลยก็มี พระสมิทธิฟัง
แล้วก็คิดว่า คำกล่าวนี้เป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงบอกกับปริพาชกนั้นว่า ท่าน
กล่าวตู่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปตลิบุตรปริพาชกจึงถามต่อไปว่า บุคคลจงใจทำกรรมทางกาย วาจา
และใจ จะเสวยผลอะไร พระสมิทธิตอบว่า จะเสวยทุกข์ โปตลิบุตรปริพาชกไม่เชื่อ แต่ก็ไม่คัดค้าน
เมื่อโปตลิบุตรปริพาชกกลับไปแล้ว พระสมิทธินำเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้พระอานนท์ฟัง พระอานนท์
เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงพาพระสมิทธิไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกราบทูลเนื้อความให้พระพุทธ
องค์ทรงทราบ พระองค์จึงทรงตำหนิพระสมิทธิ ในเรื่องการตอบปัญหาเพียงแง่เดียว แทนที่จะตอบโดย
แยกตอบ เพราะคำถามของปริพาชกนั้นมิได้เจาะจงลงไปว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว เพียงถามขึ้นมาลอยๆ
เท่านั้น
จากนั้นพระพุทธองค์ทรงยกตัวอย่างของบุคคล 4 ประเภท ขึ้นแสดงดังนี้
(1) บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป มักถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้
มักประพฤติผิดในกาม มักพูดเท็จ มักพูดส่อเสียด มักพูดคำหยาบ มักเจรจาเพ้อเจ้อ มากด้วยอภิชฌา
มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิดอยู่ในโลกนี้ เขาตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็มี
(2) บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป มักถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้
มักประพฤติผิดในกาม มักพูดเท็จ มักพูดส่อเสียด มักพูดคำหยาบ มักเจรจาเพ้อเจ้อ มากด้วยอภิชฌา มี
จิตพยาบาท มีความเห็นผิดอยู่ในโลกนี้ เขาตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็มี
(3) บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต จากอทินนาทาน จากกาเมสุมิจฉาจาร
จากมุสาวาท จากการพูดส่อเสียด จากการพูดคำหยาบ จากการพูดเพ้อเจ้อ ไม่มากด้วยอภิชฌา มีจิตไม่
พยาบาท มีความเห็นชอบอยู่ในโลกนี้ เขาตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็มี
(4) บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต จากอทินนาทาน จากกาเมสุมิจฉาจาร
จากมุสาวาท จากการพูดส่อเสียด จากการพูดคำหยาบ จากการพูดเพ้อเจ้อ ไม่มากด้วยอภิชฌา มีจิตไม่
พยาบาท มีความเห็นชอบอยู่ในโลกนี้ เขาตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็มี
จากนั้นพระองค์ทรงอธิบายความเห็นของพราหมณ์ 4 จำพวก ซึ่งต่างก็มีตาทิพย์เหมือนกัน แต่มี
วาทะต่างกัน ดังนี้
พราหมณ์จำพวกที่ 1 เห็นบุคคลจำพวกที่ 1 ในบุคคล 4 จำพวกที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วกล่าว
ยืนยันว่า กรรมชั่วมี ผลของกรรมชั่วมี
พราหมณ์จำพวกที่ 2 เห็นบุคคลจำพวกที่ 2 ในบุคคล 4 จำพวกที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วกล่าว
บ ท ที่ 2
ห ลั ก ก ร ร ม ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 45