การละลายบาปตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 144
หน้าที่ 144 / 214

สรุปเนื้อหา

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า บาปกรรมแม้เพียงน้อยก็นำไปสู่ผลร้ายได้ ในขณะที่การทำความดีจะช่วยเจือจางบาป เพื่อให้มีชีวิตที่บริสุทธิ์และพ้นจากทุกข์ การล้างบาปด้วยการตั้งใจทำความดีและสั่งสมบุญชี้ให้เห็นว่าบาปไม่สูญหาย แต่สามารถลดผลกระทบได้ด้วยการสร้างบุญมากๆ การทำความดีนั้นถือเป็นการมีสติและพร้อมที่จะพิจารณาผลดีผลเสีย ก่อนการกระทำใดๆ หากเราทำความดีมากขึ้น เราจะสามารถละลายบาปได้ และวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ทำบาป หรือทำให้ได้น้อยที่สุด ทุกอย่างจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่นเดียวกับเกลือที่ละลายในน้ำซึ่งแม้จะยังคงอยู่ แต่มีผลกระทบน้อยในน้ำที่มีอยู่มาก.

หัวข้อประเด็น

-การละลายบาป
-การทำความดี
-การมีสติในการกระทำ
-การปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา
-การพ้นจากทุกข์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต่างว่าคนใส่เกลือลงไปในถ้วยน้ำเล็กๆ หนึ่งก้อน ท่านทั้งหลายจะสำคัญว่า กระไร น้ำอันน้อยในถ้วยน้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำเค็มไม่น่าดื่มไปเพราะเกลือก้อนนั้นใช่ไหม ภิ. เป็นเช่นนั้น พระพุทธเจ้าข้า พ. เพราะเหตุไร ภิ. เพราะเหตุว่า น้ำในถ้วยน้ำนั้นมีน้อย มันจึงเค็มได้ เพราะเกลือก้อนนั้น พ. ต่างว่าคนใส่เกลือก้อนขนาดเดียวกันนั้นลงไปในแม่น้ำคงคา ท่านทั้งหลายจะสำคัญว่ากระไร น้ำในแม่น้ำคงคานั้นจะกลายเป็นน้ำเค็ม ดื่มไม่ได้เพราะเกลือก้อนนั้นหรือ ภิ. หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า พ. เพราะเหตุอะไร ภิ. เพราะเหตุว่า น้ำในแม่น้ำคงคามีมาก น้ำนั้นจึงไม่เค็มเพราะเกลือก้อนนั้น พ. ฉันนั้นนั่นแหละ ภิกษุทั้งหลาย บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลลางคนทำแล้ว บาปกรรม นั้นย่อมนำไปนรกได้ ส่วนบาปกรรมประมาณน้อย อย่างเดียวกันนั้น ลางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐ ธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย” จากพระสูตรนี้ ทำให้ทราบวิธีการแก้ไขบาปที่เกิดจากการทำชั่วที่เรียกว่า การละลายบาป ก็คือ การตั้งใจทำความดีสั่งสมบุญให้มากเข้าไว้ ให้บุญกุศลนั้นมาเจือจางบาปลงไป การทำบุญอุปมาเสมือน เติมน้ำ ทำบาปอุปมาเสมือนเติมเกลือ เมื่อเราทำบาป บาปนั้นก็ติดตัวเราไป ไม่สูญหายไปไหน ไม่มีใคร ไถ่แทนได้ ฉะนั้นเราจะต้องหมั่นสร้างบุญกุศลให้มาก เพื่อมาเจือจางบาปให้หมดฤทธิ์ลงไปให้ได้ อุปมา เหมือนเกลือกับน้ำในแม่น้ำ แม้เกลือจะยังมีอยู่ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ก็ไม่มีผล ถึงแม้ว่าจะเจือจางบาปด้วยความดีได้ ถึงอย่างนั้น บางคนแม้จะรู้ว่าอะไรเป็นความดี แต่ไม่ยอม ทำหรือทำได้เพียงเล็กน้อยเพราะไม่อาจฝืนอำนาจกิเลสได้ การทำความดีให้มากๆ เพื่อไปละลายบาปกรรม จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ดังนั้นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือ อย่าทำบาป หรือพยายามทำบาปให้น้อยที่สุด ด้วยการมี สติพิจารณาผลดีผลเสียให้รอบคอบก่อนลงมือกระทำสิ่งใดลงไปทุกครั้ง 6.2.6 วิธีการล้างบาปด้วยการปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องการล้างบาปมาตามลำดับแล้ว ในหัวข้อนี้ นักศึกษาจะได้เรียนรู้วิธีการ ล้างบาปตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มุ่งหมายเพื่อการกำจัดกิเลสอาสวะ เพื่อความบริสุทธิ์ กาย วาจา และใจ เป็นบุคคลผู้พ้นทุกข์ มีชีวิตที่สมบูรณ์ และมิต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป 134 DOU ก ก แ ห่ ง ก ร ร ม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More