ความซับซ้อนของกรรมและการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 57
หน้าที่ 57 / 214

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความซับซ้อนของการให้ผลกรรมที่มาจากการเข้าใจผิดและเน้นย้ำให้มีความเชื่อในหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์. ยังมีการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงความคิดของคนในสังคมยุคใหม่ที่มีแนวโน้มที่จะไม่เชื่อถือศาสนา และส่งผลต่อความเชื่อและการดำเนินชีวิตของพวกเขา. การศึกษาวิจัยในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าคนจำนวนมากสนใจในการใช้ชีวิตแบบปราศจากศาสนา และผลสะท้อนต่อสังคมอาจจะมีความวุ่นวายหากขาดกรอบความคิดที่ถูกต้อง. ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาและการพิสูจน์ในความเชื่อโดยเฉพาะในยุคข้อมูลข่าวสาร

หัวข้อประเด็น

-หลักกรรม
-ศาสนาและวิทยาศาสตร์
-การเปลี่ยนแปลงในสังคม
-การนับถือศาสนาในยุคปัจจุบัน
-ความสำคัญของกรอบความคิด

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประเด็นเรื่องความซับซ้อนในการให้ผลของกรรมนี้ จะเป็นคำตอบของคนที่เข้าใจหลักกรรมไม่ ถูกต้องดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้นสรุปว่า ให้เรายึดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักในการ ดำเนินชีวิต คือ เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพื่อความปลอดภัยในสังสารวัฏ และเพื่อการกระทำตนให้บริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะต่อไป และเมื่อกระทำความดีได้มากเพียงไร ผลกรรมย่อมส่งผลได้เร็วเพียงนั้น และความเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรมย่อมเพิ่มขึ้นตามลำดับ เพราะความดีส่งผลจนเกิดความมั่นใจในการ ดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2.4 คนไม่มีศาสนาไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ควรดำเนินชีวิตอย่างไร ปัจจุบันวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าอย่างมาก ทำให้เกิดเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง เป็น ผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างต่อเนื่อง จากเดิมเป็นสังคมเกษตรกรรม เปลี่ยนมาเป็นยุค อุตสาหกรรม และปัจจุบันกำลังอยู่ในยุคข้อมูลข่าวสาร หรือที่เรียกว่า โลกไร้พรหมแดน ที่ผู้คนสามารถ ติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว และกว้างขวาง เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เกิดขึ้น จึง ทำให้มีผลต่อความคิด ความเชื่อของบุคคลในสังคมไปด้วย ในยุคแรกๆ คนส่วนใหญ่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ อย่างเช่นเทพเจ้า จึงก่อให้เกิดเป็นศาสนาหรือลัทธิเทวนิยมจำนวนมาก และได้สืบทอด ความเชื่อเหล่านั้นเรื่อยมาจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน แต่เมื่อการพิสูจน์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามาก ขึ้น ทำให้คนบางส่วนเริ่มมีความเชื่อในเรื่องเหตุผลที่สามารถพิสูจน์ได้มากขึ้น อย่างเช่นในยุคที่ความเชื่อ เรื่องเทวนิยมรุ่งเรืองมากๆ มีการเผยแผ่ความเชื่ออย่างกว้างขวางไปทุกมุมโลก ซึ่งในยุคนั้นเริ่มมีนัก วิทยาศาสตร์เกิดขึ้น และนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งชื่อกาลิเลโอ ได้ค้นพบทฤษฎีต่างๆ มากมาย ที่ส่งผล กระทบในด้านลบต่อความเชื่อทางศาสนา ในขณะเดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์นั้นได้รับการยอมรับนับถือ จากผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถนำเรื่องที่คนสงสัยมาพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ แต่ในที่สุดก็ถูกคุกคาม จากศาสนาความเชื่อนั้น จนเกิดความลำบากในการดำรงชีวิต ปัจจุบันความเชื่อเหล่านั้นยังคงดำเนินอยู่ แต่มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างให้เหมาะสมกับสภาพการ ดำเนินชีวิตในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การศึกษาได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความคิดของมนุษย์ ปัจจุบันได้มีการทำวิจัยเรื่องการนับถือศาสนาของคนในยุคปัจจุบันในหลายประเทศ พบว่ามีแนวโน้มคนที่ จะไม่นับถือศาสนาใดๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะบางคนมองว่าเป็นเรื่องงมงาย พิสูจน์ไม่ได้ บางคนไม่ เห็นประโยชน์จากการมีศาสนา อยากใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่ต้องมีข้อผูกมัด หรือถูกสร้างกรอบทางความ คิดให้กับตน จากข้อมูลวิจัยเหล่านี้ เป็นเรื่องที่น่าวิตกอยู่ว่า หากคนไม่มีศาสนายึดเหนี่ยวใจมากขึ้น จะเกิด อะไรขึ้นกับสังคมและโลกใบนี้ ซึ่งแน่นอนว่า อย่างน้อยเขาจะไม่มีกรอบความคิดที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต บ ท ที่ 2 ห ลั ก ก ร ร ม ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 47
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More