อุปัตถัมภกกรรม: ความหมายและลักษณะ GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 68
หน้าที่ 68 / 214

สรุปเนื้อหา

อุปัตถัมภกกรรม คือกรรมที่ช่วยสนับสนุนกรรมอื่น โดยมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนสัตว์ให้ได้รับความทุกข์หรือความสุขตามกรรมของตน อุปัตถัมภกกรรมมีสองฝ่าย คือ ฝ่ายอกุศลและฝ่ายกุศล อุปัตถัมภกกรรมฝ่ายอกุศลจะส่งเสริมกรรมที่ไม่ดีและนำความเดือดร้อนมา ในขณะที่ฝ่ายกุศลจะสนับสนุนให้เกิดความสุข ในกรณีศึกษาของเศรษฐีอานันท ที่มีความโลภและตระหนี่ ทำให้เกิดผลกรรมที่ทำให้ชีวิตลำบาก โดยเศรษฐีนี้ไม่ยอมทำทานหรือใช้จ่ายทรัพย์ที่มีอย่างถูกหลัก อุปัตถัมภกกรรมจึงทำให้ชีวิตเขายิ่งยากลำบาก

หัวข้อประเด็น

-อุปัตถัมภกกรรม
-ความหมายของอุปัตถัมภกกรรม
-ลักษณะของอุปัตถัมภกกรรม
-อกุศลกรรม
-กรณีศึกษาจากพระไตรปิฎก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3.2 อุปัตถัมภกกรรม 3.2.1 ความหมายของอุปัตถัมภกกรรม อุปัตถัมภกกรรม หมายถึง กรรมที่ทำหน้าที่อุปถัมภ์ค้ำชูกรรมอื่น คือการเข้าไปค้ำชูกรรมของ สัตว์ทั้งหลายที่ไปเกิดในภูมิต่างๆ ให้ได้รับความทุกข์และความสุขตามสมควรแก่กรรมของตน 3.2.2 ลักษณะของอุปัตถัมภกกรรม จากความหมายข้างต้นจึงอาจจะเปรียบอุปัตถัมภกกรรมเป็นเสมือนวีรบุรุษที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ ให้มีแต่ความสุข หรือเป็นเสมือนผู้ร้ายที่คอยซ้ำเติมและทำให้มนุษย์เดือดร้อนเป็นทุกข์ เพราะ อุปัตถัมภกกรรมมีหน้าที่ช่วยอุปถัมภ์สนับสนุนชนกกรรม คือ สนับสนุนสัตว์ทั้งหลายที่ไปเกิดในภูมิต่างๆ ให้ได้รับความทุกข์และความสุขตามสมควรแก่กรรมของตน ถ้าชนกกรรมแต่งให้สัตว์เกิดมาดี อุปัตถัมภกกรรมก็จะสนับสนุนให้ดียิ่งขึ้นไป แต่ถ้าชนกกรรมแต่งสัตว์ให้เกิดมาไม่ดี อุปัตถัมภกกรรมก็จะ สนับสนุนหรือซ้ำเติมให้สัตว์นั้นย่ำแย่ หรือทุกข์ยากลำบากยิ่งขึ้นไปอีก อุปัตถัมภกกรรมมี 2 ฝ่าย คือ อุปัตถัมภกกรรมฝ่ายอกุศล และอุปัตถัมภกกรรมฝ่ายกุศล อุปัตถัมภกกรรมฝ่ายอกุศลจะทำหน้าที่อุปถัมภ์กรรมที่เป็นอกุศลให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป โดยจะทำหน้าที่ บันดาลให้เจ้าของกรรมประสบกับความวิบัติ พบกับอุปสรรคความขัดข้องในชีวิตอยู่เสมอ มีความอาภัพอับโชค ตลอดชีวิต ดังเช่นกรณีศึกษาในเรื่องต่อไปนี้ 3.2.3 กรณีศึกษาจากพระไตรปิฎกฝ่ายอกุศลกรรม ปรโลกของเศรษฐีผู้ตระหนี่ ในสมัยพุทธกาล มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า อานันทเศรษฐี เป็นผู้มีความตระหนี่แรงกล้า ไม่ทำทาน และ ไม่รักษาศีล แม้จะมีทรัพย์สมบัติมากมายแต่เป็นคนที่มากด้วยความโลภ หาทรัพย์ได้มาเท่าใดก็เก็บรักษาไว้ ไม่ยอมใช้จ่ายสิ่งใดเกินความจำเป็น แม้เรื่องอาหารการกินก็กินแต่เพียงเล็กน้อย กินของไม่ประณีตราคาถูก เพราะกลัวทรัพย์จะหมด ยิ่งนับวันก็ยิ่งโลภและตระหนี่มากขึ้น ทุก 15 วัน เศรษฐีจะเรียกลูกหลานและหมู่ญาติมาประชุมและให้โอวาทว่า สมบัติของตนที่มี อยู่ 80 โกฏินี้ อย่าได้คิดว่าเป็นของมาก ดังนั้นจึงไม่ควรจะนำออกให้ใครๆ เป็นต้นว่า ยาจกขอทาน และ สมณะโล้นทั้งหลาย เพราะให้แล้วไม่เกิดประโยชน์ใดๆ มีแต่ความสิ้นเปลืองไปแห่งทรัพย์ ไม่ได้ผลตอบแทน ใดๆ และต้องหาทรัพย์มาเพิ่มเติมให้มากขึ้นเรื่อยๆ การใช้จ่ายทรัพย์แม้ครั้งละเล็กน้อย ก็จะนำไปสู่ภาวะ เรื่องอานนทเศรษฐี, อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 41 หน้า 182 58 DOU ก ก แ ห่ ง ก ร ร ม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More