ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 7
กรณีศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม
จากเนื้อหาในบทเรียนวิชากฎแห่งกรรมที่ได้ศึกษามา ทำให้เราทราบว่า กฎแห่งกรรมเป็นกฎ
ธรรมชาติที่มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัว และเป็นกฎที่มีความเที่ยงธรรมที่สุด ไม่มีใครสามารถเลี่ยงกฎนี้ไปได้
แตกต่างจากกฎเกณฑ์ทางสังคม ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินว่า บางคดีความที่ขึ้นศาลพิจารณา ไม่สามารถจะ
จับกุมผู้กระทำความผิดได้ เนื่องจากหลักฐานที่มีไม่เพียงพอต่อการนำเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้
จึงจำเป็นต้องปล่อยผู้กระทำความผิดให้กลับเข้าไปสู่สังคมอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น ปัญหาสังคมที่เกิดจากบุคคลเหล่านี้ จึงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และยากที่จะแก้ไข เนื่องจาก
บุคคลเหล่านี้ บางคนเป็นผู้ที่อยู่ในชนชั้นสูงที่มีฐานะ และเป็นผู้มีอิทธิพล มีอำนาจที่จะทำให้ตนเองไม่ต้อง
ไปรับโทษได้ จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยมีความสงสัยเกี่ยวกับการให้ผลของกรรม จนทำให้มีคำพูดที่ว่า
“ทำดีได้ดี มีที่ไหน ทำชั่วได้ดี มีถมไป” ซึ่งถ้อยคำเหล่านี้เริ่มแผ่ขยายไปในทุกๆ หมู่ชน โดยเฉพาะผู้ที่ลำบาก
ในการหาเลี้ยงชีพต้องหาเช้ากินค่ำ บางคนต้องการแสวงหาปัจจัยเลี้ยงชีพในทางที่ผิด
แต่ในความเป็นจริงกฎแห่งกรรมมิได้เป็นเช่นนั้น เพราะกฎก็คือกฎ ยังคงรักษากฎเกณฑ์ที่ว่า
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” เปรียบเสมือนบูมเมอแรงที่บุคคลขว้างไปแล้ว ย่อมย้อนกลับมาหาตนเสมอ
กฎแห่งกรรมก็เช่นกันรอคอยการให้ผลกับทุกการกระทำที่แต่ละคนได้กระทำไว้ จึงไม่มีใครแม้สักคนเดียวที่
จะสามารถหลีกเลี่ยงกฎแห่งกรรมไปได้ ทุกคนต้องรับผิดชอบในการกระทำของตน ถ้าทำกรรมชั่วตนเองก็
ต้องรับผิด เป็นทุกข์และโทษจากกรรมชั่วของตน ใครๆ ไม่สามารถมารับผิดแทนได้ ถ้าทำกรรมดีตนเองก็
มีโอกาสรับชอบ เป็นความสุขจากกรรมดีของตน เพราะกรรมชั่วและกรรมดีที่กระทำนั้นฟ้องด้วยภาพที่มา
ปรากฏให้เจ้าตัวเห็น ไม่ว่าจะก่อนตาย ที่เรียกว่า “กรรมนิมิต” หรือไปเห็นภาพนั้นที่ศาลโลก คือ ยมโลก
ซึ่งเป็นหลักฐานที่แน่นหนา เจ้าตัวไม่สามารถปฏิเสธได้ ต้องยอมจำนนกับสิ่งที่ตนกระทำไว้ ไม่ว่าจะเป็น
กรรมดีและกรรมชั่ว
ดังนั้น ถ้าใครกระทำความผิดไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ และสามารถรอดพ้นจากกฎเกณฑ์ทางสังคมที่
จะต้องได้รับโทษในความผิดที่ตัวกระทำไว้ แต่ทว่าเมื่อถึงคราวที่ตนเองหมดลมหายใจ คือ ตายไปแล้ว ก็จะ
ต้องไปรับโทษในสิ่งที่ตัวเองกระทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ หรือถ้าหากกรรมชั่วยังไม่ส่งผลหลังจากตายไปแล้ว
เนื่องจากกรรมดีมาส่งผลก่อน แต่ถ้ากลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติต่อไป กรรมชั่วนั้นก็จะส่งผลให้ได้รับ
ตามเหตุปัจจัย
เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่มุ่งทำแต่กรรมดีเป็นอาจิณ เขาย่อมได้รับวิบาก คือผลแห่งกรรมดี
ในทางกลับกันใครก็ตามที่เจตนาทำแต่กรรมชั่ว หรือแม้จะทำกรรมดีบ้างชั่วบ้างปะปนกันไป เขาย่อมได้รับ
144 DOU ก ฎ แ ห่ ง ก ร ร ม