การกระทำของพระเทวทัตและอนันตริยกรรม GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 94
หน้าที่ 94 / 214

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับพระเทวทัตที่พยายามทำสังฆเภทและแยกหมู่สงฆ์ ส่งผลให้พระพุทธองค์ทรงห้าม แต่พระเทวทัตยังคงทำต่อไป จนทำให้มีการแบ่งพวกในหมู่สงฆ์และความเข้าใจที่ผิดพลาด พระศาสดาทรงส่งพระอัครสาวกไปช่วยเสริมสร้างความถูกต้อง หลังจากที่พระเทวทัตทำความผิดและตั้งใจเข้าพบพระพุทธองค์ แต่ได้ถูกแผ่นดินสูบไปสู่อเวจีมหานรก เนื้อหายังกล่าวถึงอนันตริยกรรม 5 ประการที่เกี่ยวกับการทำลายสงฆ์ซึ่งได้แก่ มาตุฆาต, ปิตุฆาต, อรหันตฆาต, โลหิตุปบาท และสังฆเภทที่มีเพียงพระภิกษุเท่านั้นที่กระทำได้ โดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับโทษของการทำลายสงฆ์

หัวข้อประเด็น

-การกระทำของพระเทวทัต
-อนันตริยกรรม
-ผลกรรมที่ตามมา
-การทำลายสงฆ์
-บทเรียนสำหรับภิกษุ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลังจากนั้นพระเทวทัตจึงได้เข้าไปหาพรรคพวกมีพระโกกาลิกะเป็นต้น แล้วบอกว่า ตนจะทำ สังฆเภทโดยการทูลขอวัตถุ 5 ประการนี้กับพระศาสดา แล้วจึงไปเข้าเฝ้าพระศาสดาเพื่อทูลขอวัตถุ 5 ประการ โดยอ้างเหตุเพื่อให้เป็นผู้มักน้อย สันโดษ เป็นต้น แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาตและทรงให้ภิกษุทั้งหลาย ปฏิบัติตามความปรารถนาของตน ซึ่งเมื่อพระพุทธองค์ตรัสแล้วพระเทวทัตกลับปีติใจ นำเอาความนั้นไป ประกาศแก่หมู่สงฆ์ ทำให้หมู่สงฆ์แตกออกเป็น 2 พวก คือ พวกที่ไร้ปัญญาก็มีความเห็นดีงามกับพระเทวทัต ส่วนพวกที่มีปัญญาก็กล่าวติเตียนพระเทวทัต เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบความก็ตรัสห้ามพระเทวทัต แต่พระเทวทัตก็ไม่ได้หยุดการกระทำของตน กลับเข้าไปบอกพระอานนท์ว่าตนจะแยกทำสังฆกรรมต่างหาก เมื่อถึงวันอุโบสถพระเทวทัตก็ได้ประกาศ ท่ามกลางสงฆ์เพื่อให้ภิกษุทั้งหลายจับสลากเลือกว่าจะอยู่กับฝ่ายใด จึงทำให้พระวัชชีบุตร 500 รูป ซึ่งเป็น ผู้บวชใหม่หลงเชื่อถ้อยคำและได้ตามพระเทวทัตออกไปอยู่ที่คยาสีสะ แต่พระพุทธองค์ก็ได้ให้พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะไปตามภิกษุเหล่านั้นกลับมา ซึ่งพระอัครสาวกทั้งสองก็สามารถไปตามภิกษุ เหล่านั้นกลับมาได้ พร้อมกับทำให้มีความเห็นที่ถูกต้อง เมื่อพระเทวทัตทราบความนั้น โลหิตร้อนได้พุ่งออกจากปากของพระเทวทัตทันที ซึ่งภายหลัง พระเทวทัตสำนึกผิดจึงเดินทางเพื่อจะมาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาแต่ยังไม่ทันมาถึงที่ประทับของพระพุทธองค์ แผ่นดินได้สูบพระเทวทัตลงไปสู่อเวจีมหานรกในขณะนั้นนั่นเอง พระเทวทัตผู้อยากเป็นใหญ่ จึงอยากจะปกครองสงฆ์ โดยได้วางแผนร่วมมือกับอชาตศัตรูกุมาร เพื่อปลงพระชนม์พระพุทธองค์ แต่เมื่อทำไปแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรพระพุทธองค์ได้ จึงได้ทำสังฆเภท แยกพระภิกษุออกมาอีกกลุ่มหนึ่งต่างหาก ซึ่งการกระทำของพระเทวทัตเป็นอนันตริยกรรม ด้วยผลกรรม นี้จึงทำให้พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบลงไปสู่อเวจีมหานรกได้รับโทษอย่างยาวนาน อนันตริยกรรมทั้ง 5 ประการนี้ อาจจะกล่าวโดยสรุปได้อย่างนี้ คือ มาตุฆาต ปิตุฆาต อรหันตฆาต และโลหิตุปบาท เป็นสาธารณอนันตริยกรรม คือเป็นอนันตริยกรรมที่ทำได้ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ส่วน สังฆเภทเป็นอสาธารณอนันตริยกรรม คือเป็นอนันตริยกรรมที่เฉพาะพระภิกษุเท่านั้น จึงจะกระทำสังฆเภทได้ บุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระภิกษุไม่อาจทำอนันตริยกรรมที่เป็นสังฆเภทได้ ดังเช่นที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับ พระอุบาลีว่า 1 “ดูก่อนอุบาลี ภิกษุณีทำลายสงฆ์ย่อมไม่ได้ แต่พยายามเพื่อจะทำลายได้ สิกขมานาก็ทำลาย วัตถุ 5 ประการ คือ 1. ภิกษุทั้งหลายพึงถือการอยู่ป่าเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดอาศัยบ้านอยู่ รูปนั้นจึงต้องโทษ 2. ภิกษุทั้งหลายพึงถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดยินดีกิจนิมนต์ รูปนั้นจึงต้องโทษ 3. ภิกษุทั้งหลายพึงถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดยินดีคหบดีจีวร รูปนั้นจึงต้องโทษ 4. ภิกษุทั้งหลายพึงถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดเข้าอาศัยที่มุงที่บัง รูปนั้นจึงต้องโทษ 5. ภิกษุทั้งหลายไม่พึงฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต รูปใดฉันปลาและเนื้อ รูปนั้นจึงต้องโทษ 84 DOU กฎ แ ห่ ง ก ร ร ม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More