ข้อความต้นฉบับในหน้า
3. การยกย่องบูชาบุคคลที่มีคุณงามความดี บุคคลที่ควรแก่การยกย่องบูชาเพราะมีอุปการะคุณ
ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับเรา ได้แก่ บรรพบุรุษ บิดามารดา ครูอาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชา
สมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที เคารพยกย่องนับถือ เทิดทูน
จับดีไม่จับผิดผู้อื่น ไม่คิดอิจฉาริษยา ไม่ยกตนข่มผู้อื่น ซึ่งเป็นการปลูกฝังแบบปฏิบัติค่านิยมที่ดีงามแก่สังคม
เด็กยุคใหม่เห็นก็จะถือปฏิบัติตาม แต่ค่านิยมของสังคมในปัจจุบันกำลังจะผิดไป หันไปเคารพนับถือความ
ไม่ดีประการต่างๆ แต่กลับลืมบุคคลใกล้ตัวที่อุปการะเลี้ยงดูสั่งสอนอบรมบ่มนิสัยเรามา ดังที่เห็นประจำ
คือการทอดทิ้งบุพการีให้คนอื่นดูแล ปัดภาระไปให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลานดูแล หรือผู้ใต้บังคับบัญชาคิด
แย่งตำแหน่งหัวหน้า ศิษย์ไม่เคารพครูอาจารย์ เป็นต้น สังคมแบบนี้จะเต็มไปด้วยความแก่งแย่งชิงเด่น
กลัวคนอื่นจะเหนือกว่า ไร้ความสงบสุขแตกแยกไม่สามัคคีกัน ด้วยประการทั้งปวงนี้เองที่ทำให้คนไม่
เคารพยกย่องกันไม่คำนึงถึงว่าต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อยากให้เขาทำอย่างไรกับเรา เราก็ทำแบบนั้นกับเขา
นี้จัดเป็นสัมมาทิฏฐิข้อที่ 3 การบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลดีจริง คือ การส่งเสริมสนับสนุนให้คนถือธรรม
เป็นใหญ่จะได้เกิดกำลังใจในการทำความดี มวลมนุษยชาติรู้รักสมานสามัคคีปรองดองเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา เผ่าพงศ์วงตระกูล
4. กรรมดีกรรมชั่วที่ทำไปแล้วมีผล ข้อปฏิบัติที่กล่าวข้างต้น เป็นการทำกรรมดี จึงได้ผลดีตาม
ไปด้วย คือด้วยคุณงามความดีจึงได้รับการยกย่องส่งเสริมสนับสนุน เป็นที่เคารพนับถือเกรงใจต่อผู้อื่น
เพราะหลักกฎแห่งกรรมมีอยู่ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” เป็นกฎที่เที่ยงธรรมที่สุดไม่ต้องตีความ ดังนั้นก่อน
คิดทำสิ่งใดเราควรมีความรู้ในการตัดสินความดีความชั่ว ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มุ่งทำกรรมดีเป็นอาจิณก็สะท้อนให้
เห็นว่าเขามีความเห็นถูกในเรื่องกฎแห่งกรรม ในทางกลับกันผู้ที่มุ่งทำกรรมชั่ว หรือทำกรรมดีผสมกรรม
ชั่วก็ตาม ก็สะท้อนให้เห็นว่าเขามีความเชื่อในเรื่องผลของการกระทำน้อยมากไปจนถึงไม่คิดว่ามีจริง เป็น
เพียงกุศโลบายของผู้ใหญ่ นี้จัดเป็นสัมมาทิฏฐิข้อที่ 4 วิบากแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมีผลจริง คือไม่จำกัด
สถานที่ เวลา ของการให้ผลของกรรม เพราะเป็นกฎแห่งกรรม กฎแห่งการกระทำ กฎแห่งเหตุและผล
รองรับกัน กฎแห่งกรรมนี้เหมือนการตอกตะปูลงบนไม้ แม้ถอนตะปูออกก็ยังเหลือร่องรอย หมายความว่า
สิ่งที่ผิดพลาดเมื่อกระทำไปแล้วถึงแม้จะตั้งใจทำความดี สิ่งที่ผิดพลาดก็ยังคงอยู่ไม่สามารถทำความดี
ลบล้างความชั่วที่เคยทำมาได้ ดีส่วนดี ชั่วส่วนชั่ว เหมือนน้ำผสมกับเกลือ น้ำมากเกลือก็ไม่เค็ม แต่เมื่อใด
เกลือมากกว่าน้ำน้ำก็เค็ม
5. โลกนี้ โลก คือ สังขารร่างกายจิตใจ คือหมู่สัตว์ ได้แก่ หมู่มนุษย์ หมู่เทวดา หมู่สัตว์นรก คือ
สถานที่อยู่อาศัย จากการศึกษากฎแห่งกรรมมาแล้ว จะทราบว่าความเป็นไปของหมู่สัตว์ทั้งปวงล้วนมา
จากรากฐานคือกรรมที่เกิดจากการกระทำของตนที่คอยชักนำและบังคับให้เป็นไปตามกรรม จึงเลือกไม่ได้
ว่าจะให้ได้อย่างนั้นอย่างนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีที่มาไม่ใช่เกิดขึ้นลอยๆ หรือหาเหตุผลรับรองไม่ได้
ดังนั้นนักศึกษาจึงต้องเข้าใจโลกนี้ให้ถูกต้องว่า โลกนี้มีที่มา คือ มีที่มาจากกรรมและผลของกรรม โลกนี้มี
ความไม่แน่นอนของสุขภาพร่างกาย ฐานะความเป็นอยู่ คือ มีความเปลี่ยนแปลง ไม่มั่นคง ไม่คงที่ วันนี้มี
บ ท ที่ 8 บ ท ส รุ ป ส า ร ะ สำ คั ญ กฎแห่งกรรมเชิงสัมพันธ์ DOU 181