ข้อความต้นฉบับในหน้า
ท่านดับขันธ์ก็เป็นอนันตริยกรรม แต่หากว่าท่านเป็นพระอริยบุคคลชั้นอื่น คือพระอนาคามี พระสกิทาคามี
พระโสดาบัน ไม่ถือว่าเป็นอนันตริยกรรม แต่ก็เป็นกรรมหนักที่มีกำลังน้อยกว่าการฆ่าพระอรหันต์ และใน
กรณีที่มีการใช้ให้ผู้อื่นฆ่าหรือเป็นผู้ลงมือฆ่าทั้งผู้ใช้ให้ฆ่าและผู้ที่ลงมือฆ่าก็ถือว่าได้ทำอนันตริยกรรมด้วยกัน
ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมีเงื่อนไขอยู่ว่าในการฆ่านั้น ผู้ฆ่าและพระอรหันต์ที่ถูกฆ่าจะต้องเป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ส่วนถ้าผู้ฆ่าพระอรหันต์เป็นสัตว์เดรัจฉานไม่เป็นอนันตริยกรรม หรือผู้ฆ่าเป็นมนุษย์ได้ฆ่าพระอรหันต์ที่เป็น
เทวดาหรือยักษ์ก็ดี ไม่เป็นอนันตริยกรรม
กรณีศึกษาจากพระไตรปิฎก
พวกเดียรถีย์ 500 กับโจร 500 คน
ในสมัยพุทธกาล ครั้งหนึ่งพวกเดียรถีย์ต่างพากันประชุมหาสาเหตุที่ทำให้ลาภสักการะของพวกตน
เสื่อมลง แต่ลาภสักการะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับเจริญขึ้น ซึ่งทั้งหมดต่างลงความเห็นว่าต้นเหตุคือ
พระมหาโมคคัลลานะ จึงทำการว่าจ้างให้พวกโจรฆ่าพระมหาโมคคัลลานะ
พวกโจรจึงไปล้อมที่อยู่ของพระโมคคัลลานะเพื่อจะฆ่า แต่ท่านเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มากจึงหนีออกไปได้
ทุกครั้ง แต่เมื่อพระโมคคัลลานะทราบบุพกรรมของตน จึงยอมให้พวกโจรทุบตีฆ่าท่านจนกระดูกแตกยับ
เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เมื่อพวกเดียรถีย์และพวกโจรถูกลงโทษแล้ว ตายไปก็ไปบังเกิดในอเวจีมหานรกตาม
สมควรแก่กรรมที่ตนทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์
พวกเดียรถีย์และพวกโจรได้กระทำการฆ่าพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นกรรมหนัก คือ
อนันตริยกรรม เพราะพระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอรหันต์ ถึงแม้จะเป็นกรรมในอดีตชาติของท่าน แต่ก็
เป็นกรรมใหม่ที่ทำให้พวกเดียรถีย์และพวกโจรถูกจับลงโทษจนตาย เมื่อตายแล้วก็ยังต้องไปรับโทษในอเวจี
มหานรกอันยาวนานอีก
2.4 โลหิตุปบาท
โลหิตุปบาท คือ การทำร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผลให้พระโลหิตห้อในพระวรกาย ทั้งนี้เป็น
เพราะพระวรกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็น อเภทกาย คือ เป็นพระวรกายที่ไม่แตกทำลาย โดยใน
ขณะที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนมายุอยู่นั้น พระอวัยวะทั้งปวงจะไม่แตกทำลาย เว้นไว้แต่พระพุทธองค์
ทรงมีพุทธานุญาตให้กระทำเพื่อรักษา แม้ว่าจะมีผู้ประทุษร้ายพระองค์ด้วยอาวุธหรือวิธีการใดๆ ก็ไม่อาจ
ทำให้ร่างกายของพระองค์ปริแตกเป็นรอยบาดแผลเหมือนผิวกายของมนุษย์ทั่วไป แต่จะมีเพียงอาการ
1 เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ, ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 หน้า 95
80 DOU ก ฏ แ ห่ ง ก ร ร ม