ความเป็นอยู่และกรรมในชีวิตหลังความตาย GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 192
หน้าที่ 192 / 214

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในโลกมนุษย์ที่มีอายุจำกัด และความสำคัญของกรรมดีและกรรมชั่วในการดำรงอยู่ของมนุษย์ คำสอนจากพระพุทธศาสนาอธิบายว่าทุกชีวิตมีกรรมเป็นของตน และกรรมจะนำไปสู่การเกิดใหม่ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ มนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน โลกหน้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่ที่แน่นอนคือ ทุกคนต้องไปเกิดใหม่อีกเมื่อมีกรรมส่งผล การทำคุณงามความดีในปัจจุบันจึงสำคัญที่สุดเพื่อเตรียมความพร้อมในการเกิดใหม่ในภพที่ดีขึ้น

หัวข้อประเด็น

- ชีวิตดีมีสุข
- กรรมและผลกรรม
- ความสำคัญของการทำดี
- ชีวิตหลังความตาย
- สถานที่เกิดใหม่

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ความเป็นอยู่ดีมีสุขแต่พรุ่งนี้อาจสิ้นเนื้อประดาตัว เหมือนเช่นนักพนันทั้งหลาย โลกนี้มีคุณ คือ เป็นความ โชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์มีกายหยาบสำหรับใช้ประกอบคุณงามความดีและบุญกุศลทั้งปวงได้อย่างเต็มที่ ต่างจากเทวดาหรือสัตว์เดรัจฉาน ที่ไม่สามารถประกอบความดีได้เต็มที่ อีกทั้งภพมนุษย์นี้ก็เหมาะสมแก่ การสร้างกรรมดี เพราะเรามีสังคมรอบข้างที่จะคอยเป็นกัลยาณมิตรแนะนำประโยชน์ให้ได้ เช่น พระภิกษุ สามเณร บิดามารดา ครูอาจารย์ เป็นต้น โลกนี้มีเวลาจำกัด คือ มนุษย์ทุกคนมีอายุไม่เท่ากัน มีอายุจำกัด มีความตายเป็นตัวกำหนดตัดรอน เพราะเกิดจากความแตกต่างกันของกรรมดีที่ทำให้อายุยืน กรรมชั่วที่ ทำให้อายุสั้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องรีบสั่งสมความดีให้มากที่สุด ต้องไม่สร้างกรรมชั่วอีกเด็ดขาด ต้อง ขวนขวายทำความดีไม่อยู่เฉย นี้จัดเป็นสัมมาทิฏฐิข้อที่ 5 โลกนี้มี หมายความว่า โลกนี้มีคุณประโยชน์ให้ เราได้อาศัยใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับประกอบคุณงามความดีทั้งปวง 6. โลกหน้า คือ ชีวิตหลังความตาย หมายความว่า หลังตายแล้วชีวิตไม่ดับขาดสูญ จิตของผู้นั้น ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปเพราะกิเลสยังครอบงำบังคับบัญชาอยู่ มีแต่สังขารร่างกายเท่านั้นที่เสื่อม ทำลายไป ซึ่งชีวิตหลังความตายของผู้นั้นจะไปเกิดเป็นอะไรนั้นก็ถูกจำแนกให้แตกต่างกันด้วยอำนาจกรรม ดังพุทธพจน์ที่ว่า “สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็น เผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้” ทำให้ทราบว่า ไม่ว่ามนุษย์ หรือสัตว์เดรัจฉานที่ถือกำเนิดอยู่ให้เห็นกันตอนนี้ล้วนเป็นการรับผลของกรรมทั้งดีและชั่วที่เคยทำกันไว้ ในอดีตชาติ คือ เป็นมรดกกรรมที่เราต้องรับเป็นทายาทสืบทอดต่อ ทุกชีวิตเมื่อละโลกนี้ไปแล้วยังต้องมี ชีวิตหลังความตายต่อไปอีก และแต่ละชีวิตหลังจากตายจะถือกำเนิดใหม่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ หรือเผ่าพันธุ์ สัตว์เดรัจฉานต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมที่ตนกระทำไว้ คือ มีกรรมเป็นตัวนำไปกำเนิดในรูปแบบเผ่าพันธุ์ต่างๆ แล้วแต่กรรมจำแนก เช่น สมัยเป็นมนุษย์เจ้าชู้ชอบโกหกหลอกลวง เมื่อละโลกจึงไปเกิดเป็นลิง เป็นต้น และดำรงอยู่ในเผ่าพันธุ์นั้นด้วยกรรมจากจุดนี้มติทางวิทยาศาสตร์ที่ว่ามนุษย์มาจากลิงนั้นทางพระพุทธศาสนา ไม่รับรองว่าเป็นเช่นนั้น เพราะกำเนิดมนุษย์กับกำเนิดสัตว์เดรัจฉานไม่เหมือนกัน ไม่มีการกลายพันธุ์กันได้ มีแต่กรรมจำแนกให้มีความใกล้เคียงกันทางสรีระเล็กน้อยเท่านั้น โลกหน้า คือ สถานที่สถิตของชีวิตหลังความตาย จากผลพวงข้างต้น เมื่อมีสัตว์ไปเกิดมาเกิด จึงเกิดสถานที่รองรับ ตัวอย่างเช่นที่เราเห็นกันบนโลกใบนี้คือ จะเห็นมนุษย์กับสัตว์เดรัจฉานประเภทต่างๆ อาศัยอยู่รวมกัน เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ก็มีสถานที่ความเป็นอยู่แบบมนุษย์ เมื่อเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็มี สถานที่ความเป็นอยู่แบบสัตว์เดรัจฉาน เช่น ปลาต้องอยู่ในน้ำจึงอยู่รอด แต่ถ้าขึ้นบกมาอยู่แบบมนุษย์ก็ตาย ในทางกลับกันมนุษย์มีความเป็นอยู่บนบกจึงอยู่รอด แต่ถ้ามนุษย์อยู่ในน้ำโดยการหายใจทางจมูกก็ตาย สถานเดียว ฉะนั้นโลกหน้าจึงเป็นเรื่องของความไม่แน่นอน คือ ไม่แน่นอนว่าจะต้องไปถือกำเนิดเป็นสัตวโลก ประเภทใด จะมีสถานที่ใดหรือมีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร อาจจะเป็นโลกซึ่งอยู่ในจักรวาลอื่นก็ได้ แต่สิ่งที่ แน่นอนก็คือ เราจะต้องเกิดใหม่อีก เพราะเรายังไม่หมดกิเลส ดังนั้นจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจเรื่อง โลกหน้าให้ดี สรุปแล้วหนีไม่พ้นเรื่องของกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จึงควรเตรียมความพร้อมการ 182 DOU กฎ แ ห่ ง ก ร ร ม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More