การดูแลและส่งเสริมการปฏิบัติธรรมในองค์กร : หน้า 105/272

พระนที พุทธินโน การที่เราทุกคนจะไปถึงเป้าหมายคือได้ตามวิชาธรรมภายในนั้น เราทุกคนจะต้องช่วยกันดูแลส่งกันและกัน หากเพื่อนกำลังใจตก หมดกำลังใจ เราจะต้องให้ ให้กำลังใจหม่นพูดคุยแต่เรื่องเป้าหมายอุดมการณ์และเรื่องธรรมะ เพื่อให้ใจ Buddhนื้อไม่คร่ำหมองและที่สำคัญองค์ควรมีสัมปยะ 4 ที่ดีที่เหมาะสม เช่น อาสรมพุทธบุตรแก้วในการนั่งปฏิบัติธรรม เพื่อความเจริญก้าวหน้าในธรรมะ ทำให้เป้าหมายเพื่อไปถึงที่สุดแห่งธรรมตั้งมั่นชัดเจน และเมื่อเรามีกำลังใจดีแล้ว เราก็จะเป็นกัลยาณมิตรดีให้กับเพื่อนๆในองค์กรมได้ด้วยครับ พระประพุทธ พุทธพิไล ลูกอยากให้บุตรในองค์กรมีโอกาสและเวลาในการปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้าปล่อยให้บุตรจากคิดต่างทำกันมีผลน้อยหรือเจอจง ลูกประทับใจองการ์ตูนูมาก ในทุกวันที่เข้ากอง ท่านพระ อนุสร อุบาสากรรมกันสวนบนตักทำวัตรเข้าและนั่งสมาธิไปพล จะไม่มีการทำงานอื่นๆใดๆเลย ซึ่งหัวหน้ากองท่านเคยเล่าว่าเวลทำงานเยอะจะทำให้ใจหยาบและกดดัน หากปฏิบัติธรรมเนื่องการหมุนเวียนของบุคลากรจะสูงเพราะอยู่ไหว แต่ตั้งแต่เริมกิจกรรมอย่างนี้บรรยากาศก็รื่นรมย์ดีขึ้น งานก็ดีขึ้น แมทุกคนได้มีโอกาสสื่อเวลาในการปฏิบัติธรรมแสงหา ที่พึ่งภายในด่วยด้วย วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราและสมาชิกในองค์กรมอยู่ได้ตลอดรอดฝั่งจงสามารถศึกษาวิชาธรรมภายในได้ ลูกอยากให้มีการกำหนดเป็นนโยบายในการสร้างกระแสให้แต่ละหน่วยงานมีความรักการประพฤติปฏิบัติธรรมให้มากขึ้น พระสมบัติ ฤกขิตจิตโต ลูกคิดว่าการเป็นกลายามิตที่ดีที่สุดคือเราต้องทำเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดให้ก่อน ถ้าทำได้ สรรคริก็จะได้แรงบันดาลใจและเอาแบบอย่าง และที่สำคัญเวลาเราไปชวนหรือแนะนำใครคำพูดเราก็จะมีพลัง เพราะเราทำจริงและก็เห็นผลจริง ดังนั้นเราต้องปฏิบัติธรรมทุกๆ วันห้ามขาดแม้แต่วันเดียว และถ้าได้ประสบการณ์ภายในดีด้วยแล้ว ก็จะเป็นเสมือนว่ามีเศษชื่นเยี่ยมที่จะทำให้โนปณิธานและความตั้งใจของเรานั้นแน่น เข้มแข็ง แข็งแรง เติบโตอย่างมั่นคง และเผื่อแผ่ไปสู่ชาวโลกได้ครับ