ข้อความต้นฉบับในหน้า
สังขารร่างกายทั้งของเราและของคนอื่น บางช่วงเราก็คิดว่าเป็นปฏิกูล บางช่วงเราก็คิดว่าไม่เป็นปฏิกูลอย่างนั้นใช่ไหม
พระอรัญพงศ์ โกวิโต
แม่เราจักทราบกันดีว่าสิ่งปฏิกูลในร่างกายมีกังตัวเราและผู้อื่น สิ่งต่างๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนังนั้นส่วนไม่สวยไม่งามทั้งสิ้น ตามมิติ แต่ว่าเรามีจะไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นตรงไปตามความเป็นจริง เพราะบางช่วงเราก็เห็นถ้าเราพิจารณา แต่ว่าเราพยายามปกปิดสิ่งไม่สวยไม่งามต่างๆ เหล่านี้ไว้ ทำประหนึ่งว่ามิเลยไม่อายตลอดเวลาตั้งแต่เด็กจนโต ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นไปดีที่ทุกคนก็ขาน ถึงเกิดความเคยชิน และมองข้ามสิ่งไม่งามต่างๆ ในร่างกาย
สิ่งปฏิกูลเหล่านี้เมื่อตูกองข้างนอกเข้่าๆ และต่างคนต่างก็พยายามปกปิดความไม่งามในร่างกาย แต่ความปฏิกูลนั้นๆ เราก็พยายามปกปิด คนนึงก็พยายามปกปิดเช่นกัน ดังนั้นเราและเค้าจึงเห็นสิ่งปฏิกูลไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงว่ามันทุกคนแแมว่ตกแต่งงรูปแต่งประดับประดากายให้สวยงามอยู่เสมอ ความไม่สวยไม่งามในร่างกายจึงเป็นบาง(ทำเป็น) ไม่เห็นบ้าง เราจึงมองโลกไม่ตรงตามความเป็นจริง
พระทิวรรภ์ อภิโมโน
ใจเรามักจะลอย อยู่ การพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นปฏิกูลหรือไม่ บางทีสิ่งปฏิกูลเราก็คิดว่ามันไม่ปฏิกูล และสิ่งที่ไม่ปฏิกูล เราก็คิดว่าเป็นปฏิกูลเพราะก็เลยสมามให้เราเห็นความจริง ถ้าเราฝึกให้เราไร้เลสได้เมื่อไร นั่นแหละเราจะเห็นความจริงครับ เพราะฉะนั้นมันเป็นไปอย่างที่หลวงพ่อถามมาครับ เราคิดอยู่ว่าอะไรปฏิกูลไม่ปฏิกูล ถ้ามีสติเราก็จะ คิดถูก ถ้าหลสมาบังเราก็จะคิดถูกผิด และไม่รู้ว่าราไรคือความจริงครับ
พระมหาชูพงษ์ ธมฺมิโก
ใช่ครับ บางครั้งเราก็พยายามปรับแต่งสิ่งของเราให้ดูดี ปิดบังกวามไม่งาม เพราะเรา ต้องพบเจอผู้คนตลอดทุกวัน เลยทำให้ใจเผลอมองตัวเองไม่ใช่ปฏิกูลไง กับคนอื่นก็เช่นกัน เผลอมองคนนัน คนนั้นดูดี เพราะใจเราไม่มีดีดี ได้พิจารณาปฏิกูลตลอดเวลาครับ
พระมหาสุรพงศ์ วรสโร
ใช่ครับ ช่วงที่ใจจะเดี๋ยดใจดี เพราะการปฏิบัติธรรม ก็จะคิดว่าเป็นปฏิกูลหรือไม่คิดอะได้วยช้าไปครับ แต่ว่าที่ไม่ละเอียดประมาณ ไม่ระมัดระวังภายในภายนอก ส่วนใหญ่จะเป็นตา ก็จะทำให้ไม่เห็นว่าเป็นปฏิกูล กามาระก็คือก็จะกำเริบ ทั้งๆ ที่รูว่าปฏิกูลนั้นถูกเสริมแต่งขึ้นมา