การมองร่างกายและจิตใจผ่านธรรมะ “อ๊อกถ่อกว่า เหน่อเกอสิยา“  ต้องเปิดอ่าน ถึงจะรู้ หน้า 203
หน้าที่ 203 / 272

สรุปเนื้อหา

ในการสนทนานี้ พระอนุรักษ์ ธีรโสโณ และพระมหาสาธิต สมาจาโร กล่าวถึงแนวทางการวิเคราะห์ร่างกายและจิตใจ โดยเน้นว่าหากใจไม่อยู่กับธรรมก็จะหลงติดในรูปลักษณ์ภายนอก พระประพฤท พุทธิโล ได้ชี้ให้เห็นว่าความชอบของเราบางครั้งอยู่นอกเหนือความเป็นจริงและอาจทำให้เรามองข้ามความโอ้เอ้ของร่างกาย โดยมองภายนอกเป็นสิ่งสวยงาม ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นเพียงปฏิกูลเมื่อไม่ได้รับการดูแล พระมหาชัตรชัย จิรวฺโช สรุปว่าในเวลาที่เราดูแลร่างกายดี เราจะไม่เห็นข้อบกพร่อง แต่เมื่อไม่ได้ดูแล เราจะเห็นความไม่งามได้ชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติธรรมจึงมีความสำคัญในการมองโลกและตัวเราตามความเป็นจริง

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์ร่างกาย
-ธรรมะกับจิตใจ
-รูปลักษณ์ภายนอก
-สติและการรับรู้
-การรักษาธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระอนุรักษ์ ธีรโสโณ บางครั้งเราเห็นร่างกายเป็นสิ่งปฏิกูลแต่งบางครั้งก็ไม่ใช่เพราะบางครั้งถ้าใจของเรายังไม่งนพอ ไม่มั่นใจใจให้อยู่กับธรรมะ เราก็ถูกฎปลักษณ์ภายนอกของร่างกายเช่น หน้าตา รูปร่าง สีผิว หลอดาเอาได้ครับ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะพอใจเราไม่อยู่กับธรรมแล้ว การวิเคราะห์ วิจัยที่จะมองสิ่งต่างๆ ให้เห็นแก่แก่ในสิ่งนั้นจะทำได้มากดังนั้นเราจึงต้องหมุนปฏิบัติธรรมและหมุนรักษาธรรม มองโลกตามความเป็นจริงให้รับ พระมหาสาธิต สมาจาโร ใช่ครับหลวงพ่อ เพราะว่าเมื่อถามกำเนิด ความกำหนดเข้าครองบ้าง ก็จะทำให้เราถูกสิ่งเหล่านี้บังบังไม่เห็นไปตามนั้น ไปติดรูปลักษณ์ภายนอกที่เค้าล่อหลอก ทำให้ดูว่าไม่ปฏิกูล ทั้งที่มันเป็นปฏิกูล จุดห้องสุขาที่เขาประดับประดาด้วยเครื่องหอม ตกแต่งอย่างประณีต แต่เมื่อไปด้วยอุจจาระ ปัสสาวะจะนั่นครับ พระประพฤท พุทธิโล มันแปลกดีนะที่ใจของเราชอบของต่ำๆ ที่ต่ำๆ ถ้าถ่อยใจไปตามกระแสโลก กระแสก็เสีจะคิดผิด พูดผิด ทำผิด แล้วไปติดในอายตนะ ทั้ง 5 ก็ธรรมารณ์ต่างๆ สิ่งที่ควรเห็นว่าถือโทษก็เห็นเป็นคุณ สิ่งที่ต่ำก็เชื่อว่าเป็นของสูง ทั้งที่ความของเราและผู้อื่นเป็นที่ระบายปัสสาวะ อุจจาระและอากาศเสีย มันแปลกตรงที่ว่าเราไม่มีสติเอาความเป็นจริงมาพิจารณาเราก็จะมองข้ามความทุกปรกความโศรกของร่างกายตัวเองและของผู้อื่น แถมอาจเห็นผิดอย่างมักนักแล้วไปหลงว่าเป็นของสายของงาม มงที่สุดในจักรวาลก็เป็นได้ พระมหาชัตรชัย จิรวฺโช สังขารร่างกายของเราและของคนอื่น บางช่วงก็คิดว่าเป็นปฏิกูล บางช่วงก็ไม่คิด ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะในเวลาใดที่ร่างกายได้รับการดูแลเอาใจใส่ ประดับตกแต่ง ชำระล้างให้สะอาด เวลานั้น เราย่อมมองไม่เห็นจุดบกพร่องของร่างกาย มองไม่เห็นความเสื่อมโทรมไม่เห็นความเป็นปฏิกูล เห็นว่างดงามอยู่ตลอด แต่เมื่อใดที่ร่างกายไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ไม่ประดับตกแต่ง ไม่ชำระล้างให้สะอาด เมื่อมองดูแล้วก็เห็นปรกติ เห็นจุดบกพร่องและเสื่อมโทรม เพราะมีกลิ่นเหม็น มีเหงื่อไหลออก มีความไม่งามดูชมน เหตุนี้เอง บางเวลาจึงเห็นเป็นปฏิกูล บางเวลาจึงไม่เห็น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More