ร่างกายเป็นปฏิกูลและการปฏิบัติธรรม “อ๊อกถ่อกว่า เหน่อเกอสิยา“  ต้องเปิดอ่าน ถึงจะรู้ หน้า 185
หน้าที่ 185 / 272

สรุปเนื้อหา

ร่างกายของเราถือเป็นปฏิกูลซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ทั้งภายนอกและภายใน โดยมีการอธิบายถึงความจำเป็นในการปฏิบัติธรรมเพื่อทำความเข้าใจและปล่อยวางจากความเป็นปฏิกูลนี้ การมองร่างกายเทียบเสมือนถังขยะที่มีงานที่ต้องทำเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากร่างกาย เราจึงควรมุ่งเป้าไปที่การทำความดีและพัฒนาคุณธรรมแทน เพราะคุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่จิตใจที่สะอาดและบริสุทธิ์ ซึ่งสามารถทำให้เรามีความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดในจักรวาล

หัวข้อประเด็น

-ร่างกายเป็นปฏิกูล
-การมองร่างกายจากมุมมองของพระพุทธศาสนา
-ความสำคัญของธรรมะในชีวิต
-ประโยชน์จากการปฏิบัติธรรม
-การปล่อยวางและทำความดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สงขลาร่างกายเป็นปฏิกูล ไม่เฉพาะของเราคนเดียวแต่งขาร่างกายของคนนี้เป็น ปฏิกูลด้วย ซึ่งก็ล้วนประกอบด้วยสิ่งสกปรก ไม่สะอาด ไม่น่าดู ไม่น่ามอง ตั้งแต่ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ลูกนัยน์ตา หู จมูก ปาก ลิ้น น้ำตา ขี้ไซ น้ำมูก น้ำลาย น้ำเหงื่อ น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำมัน เปลวมัน น้ำดี ละออง กระดูก เนื้อ เลือด เอ็น เยื่อในกระดูก ปอด ตับ ม้าม ใหัวใจ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ ผนังพังผืด มดลูก คูอาอาหารเก่า อาหารใหม่ ตามที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาสอนอธิบายไว้เฉพาะอย่าง ๆ มาโดยชัดเจน แจ่มแจ้งเลย ครับ ซึ่งก็มีเป็นเหมือนกันหมดทุกผู้ทุกนาม ไม่เว้นแม้แต่เพียงคนเดียว ถ้าพิจารณาดูร่างกายอันน่าอยู่เป็นนิ้วของเราแล้ว ก็เปรียบดังถังขยะหรือถังซักที่ เคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา ดังที่หลวงพ่อเมตตาสอนเตือนสติลูก ๆ จริง ๆ ยิ่งไปยิ่งดีใส่ข่าว ร่างกายคนอื่นก็เหมือนกันเราได้เพิ่มขยะ เพิ่มถังขยะที่เข้ามาอีก ยินดีเท่าไรร่อนได้ จำนวนถังขยะจำนวนถุงขับมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเราก็ต้องมาจับแก้คิด หาประโยชน์สาระจากร่างกายที่เป็นปฏิกูลนี้ด้วยการ ปลอดสกุล เมื่อหย่าร่างกายอันไม่งาม ปลด ปล่อย วาง หันกลับมาปลดใจ วางใจตรง ศูนย์กลางกาย ปฏิบัติธรรมให้เข้าไปถึง เข้าไปฝ่าฝืนในใจใส สะอาด บริสุทธิ์ ซึ่งงาม กว่าสุขในจักรวาล คือธรรมกายภายใน พระครูปลัดสนุตร ฉนฺทิโต 1. สงขลาร่างกายของเราเป็นปฏิกูลอย่างไร ร่างกายของคนนี้เป็นของปฏิกูลอย่าง นั้น 2. ร่างกายของเรามี่แต่เสื้อผ้าลงไป และสิ่งที่เป็นปฏิกูลในร่างกายเราก็เพิ่มมากขึ้น เรื่อย ๆ ร่างกายของคนอื่นก็เช่นเดียวกัน 3. ร่างกายเป็นสิ่งปฏิกูล เมื่อเราสงขรณ์ไปแล้วไม่มีใครต้องการร่างกายนี้เลย ร่างกายย่อมไม่เสียด ต้องนำไปเผาจนเหลือแต่กระดูก แต่กระดูกยังไม่มีใครต้องการเก็บ ไว้เลย ร่างกายคนอื่นก็เป็นอย่างนั้น 4. ร่างกายที่เป็นปฏิกูลนี้จะได้ประโยชน์มากที่สุดเมื่อนำไปทำความดี ส่งสมความดี ให้บังเกิดขึ้นกับตัวเราเองและผู้อื่น ดังนั้นคนเหมือนกันแต่ต่างกันที่คุณธรรมในตัวที่เราฝึก อบรมมาได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More