ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทำอย่างไรเราจึงจะจดลืมคิดว่า "สิ่งขังร่างกายทั้งของเราและของคนอื่นเป็นปฏิรูปจริงๆ ให้ได้ตลอดเวลา"
พระครูสมุห์วัฒน์ สุทธิอิริยโ โดยพยายามกำหนดใจให้หยุดนิ่ง ตั้งมั่นที่ศูนย์กลางกายให้ดีในทุกๆ อิริยาบท ก็จะทำให้เกิดสติ มีสมาธิ ปัญญา เกิดโยนิสมสิกรรม สามารถพิจารณาความเสื่อมของสังขารทั้งหลายได้อย่างเบาบาย และลีกซึ่งยิ่งขึ้น เช่น พิจารณาความไม่งามของร่างกายของเราเอง ที่สามารถมองเห็นจากภายนอก เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก อาหารเก่า และสิ่งปฏิกูลทั้งหลายที่ไหลออกจากร่างกายของเราเอง รวมทั้งสภาพร่างกายของผู้อื่นรอบ ข้างตัวเรามีสิ่งไม่งามมากมาย และสภาพความเสื่อมของสังขารร่างกายที่ให้เห็นและ พิจารณาได้ในทุกๆ แห่ง โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในป่าช้าหรือโรงพยาบาล ยิ่งมั่น พิจารณามากเข้าๆ ก็จะเกิดความเคยชินและชำนาญในการมองเห็นความเป็นปฏิรูปของสังขารได้ตลอดเวลา ย่อมทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และรู้เท่าทันสภาพธรรมตามความเป็นจริง จะเป็นเครื่องส่งเสริมให้เกิดฉันทะในการปฏิบัติธรรมให้ง่ายๆ ขึ้น เพื่อให้ได้เช็ทที่พึ่งที่สึกภายในตน คือพระธรรมภายในนั้นเอง
พระดรุณภาพ อภากสุโก เราจะต้องสำรวมอินทรีย์ และพยายามตรึกนึกถึงองค์พระแก้วไว้ในที่กลางท้องให้ได้ทั้งวันทั้งคืน ทุกลมหายใจเข้าออก เพื่อให้ใจสงบอยู่ที่ศูนย์กลางกายให้ได้ตลอดเวลา จะได้ไม่ผลด มีสติเท่านั้น พิจารณามองเห็นสังขารร่างกายได้ตามความเป็นจริงว่าของเราและของคนอื่นนั้นเป็นปฏิรูปจริงๆ ครับ
พระพรชัย อิทธิจิโต
1. ให้พิจารณาถึงความตายเป็นอารมณ์ เดียววันเดียวคืนไม่ช้าเราต้องตายแน่รวดๆ นี้จะได้ขวนขวายในการปฏิบัติธรรม จะได้สติยึกลึกรับเนือ่ยกับตัว อยู่กับศูนย์กลางกายตลอดเวลา
2. ให้พิจารณาถึงสังขารไม่เที่ยง มีความแก่ ความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่อาจหนีจากความแก่และความเจ็บไปได้ จะได้สติอยู่กับเนื้อกับตัว อยู่กับศูนย์กลางกายตลอดเวลา
3. ให้ปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องทุกวัน ให้มีสติอยู่ที่ศูนย์กลางกายอย่างสบายๆ ทั้งในรอบและนอกอบอย่างสบายๆ จะได้ไม่สัมผัสสิ่งของของเราและของคนอื่นล้วนนเป็นปฏิรูปจริงๆ ครับ