ข้อความต้นฉบับในหน้า
ร่างกายของเราเป็นรังแห่งโรคจริงหรือ
◎ พิมพ์พิศร์ รัตนไตร
จริงเจ้าคะ หลวงพ่ออาม่าเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยมาก ทำให้ลูกสงสัยอยากทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไป ลูกจึงไปค้นเจอคำตอบว่า
"พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าร่างกายเป็นโรคหนึ่ง คือร่างกายเป็นรงของโรค ในที่สุดก็ต้องแตกสลายเน่าไปตามธรรมชาติ
คำว่าโรคทิ้ง (ร่างกายเป็นรองของโรค) และว่านี้ซื้อโรคอยู่เต็มไปหมดในร่างกาย มีผิวหนังศีรษะก็เป็นโรคทั้งแถบ มีต้ามเป็นโรคตา มีจุกเป็นโรคปอด มีตัใบข้ออะไรต่างๆ มันก็มีเชื้อโรคไปหมด แต่เมื่อตายเป็นหนุ่มสาวก็มีแรงต้านทานเยอะ เมื่อแก่อะไรไปความต้านทานเหลือน้อยลง โรคภายภายนอกโจมตีเข้ามา ส่วนโรคภายในก็แสดงอาการออกมาทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง แล้วจะหาความมั่นคงได้จากไหน เพราะร่างกายเราตีมไปด้วยโรคนานาชนิด นี้คือความประมาณประเภทที่สอง คือคิดว่าจะไม่เจ็บ"
แท้จริงแล้วหลวงพ่อกำชับเน้นย้ำพวกเราให้ "มีสติ" "ไม่ประมาท" กับช่วงเวลาในทุกๆ อนุวินาทที่กำลังล่วงเลยให้เร่งสร้างบารมีในขณะที่ร่างกายของเรายังแข็งแรงอยู่
◎ นลินรัตน์ พิชชะกุลเกียรติ
ตั้งแต่เด็ก ก็ร้องแง แม่ช่วยด้วย กายเริ่มป่วย ไม่สบาย ไปหาหมอ
ปวดเมื่อยตัว เลือดลมติด ไม่รอรอ ต้องร้องขอ ยาบรรเทา กลายกังวล
ตั้งแต่หัว จรดเท้า เรายึดหนอ เชื้อโรคคือ เติบโตได้ ทุกแห่งหน
นำพากาย ไม่สบาย ต้องดันรน ใจสับสน โรคร้าย ทุกเพศวัย
ท้องอารมณ์ อากาศ และอารมณ์ ไม่เหมาะสม ก็ทำให้ กายอ่อนไว
ขับถ่าย ผิดเวลา อัดฉีดไป เกิดโรคภัย เรียกแรงหมด เป็นทุกข์ใจ
ไอ้ อันจีจ๋า ร่างกาย ริ้นแห้งโรค จิตเศร้าโศก เพราะกรรมเก่า ตนทำไว้
ผิดศีลมาก ก็ป่วยหนัก รันทดใจ เราอยู่ได้ กุศลแห่งกรรม กลมมา
ยังแข็งแรง รีบสร้างบุญ ทำใจหยุด เห็นพระผด ใบศรี นิ่งแน่นหนา
คราเจ็บป่วย ยิงดวงเพรี ยศธรรมมา เป็นยาใจ รักษาโรค ไม่โกลเดย