ข้อความต้นฉบับในหน้า
พิจารณาเทียบเคียงว่าร่างกายคนอืนก็มีระบบการทำงานเหมือนเช่นเรา มีการหลังของเสีย เหอ้อูอาจจะ ปัสสาวะ เมื่อเกิดบาดแผลมีน้ำเลือด น้ำหนอง ทำให้เกิดความอับเน่าในร่างกายสังขารของตนเองและผู้อื่น
สังเกตความเปลี่ยนของสังขาร บุคคลรอบข้างที่เกิดความเสื่อมไปเรื่อยๆ เช่น ผมก็ หงอก ผิวหนังก็เหี่ยวย่น เช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือเพื่อนสหธรรมนิที่ป่วยไข้ เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังขาร ทำให้เกิดความสดใจ
เมื่ออยู่ใกล้อนรอบข้าง เราอาจจะได้รับอายตะภายนอกที่มีพุ่งประสงค์ เช่น กลิ่นตัวเหม็น เราก็นำมาสอนใจตัวเองถึงความเป็นปฏิกูลของร่างกายครับ
พระชัยวัฒน์ คุณวุฒโน
รู้ว่ามต่างกัน เพราะทั้งเราและคนอื่น ต่างต้องล้างหน้า แปรงฟัน ชำระล้างร่างกาย ขับถ่ายของเสียของเขาเหมือนกันที่อยู่ในร่างกายทุกวันเหมือนกัน ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำความสะอาดนานเข้าก็ไม่ต่างอะไรกับขยะเดินได้ แม้ทำความสะอาดทุกวันแล้วก็ยังต้องประพรมน้ำหอมต่างๆ เพื่อให้กลิ่นที่ขี้บ่ออกจากร่างกายตลอดเวลา
แสดงว่าคุกๆ คณก็เปรียบเหมือนถุงปฏิกูลที่รัณสิ่งปฏิกูลออกมาตลอดเวลา เราจึงต้องคอยตามเช็ด ตามล้างร้อยไป เราจึงไม่ควรติดกับภาพพมายที่แต่งขึ้นเพื่อปิดความเป็นจริงของสังขารร่างกาย
พระมหาอภิพล อินทริชโย
ร่างกายของคนอืนก็ประกอบด้วยอัฐุ 4 เช่นเดียวกับเรา คือ มีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลมและธาตุไฟ เพื่อดูแลให้รัถลงนี้เป็นไปจำเป็นต้องแสงหาสิ่งต่างๆ มาเหลือเลี้ยงร่างกายให้ดำรงอยู่ได้ เมื่อมีการเติมธาตุใหม่เข้าไปต้องมีการขับของเก่าออกมา ของเก่าของเสียที่ขับออกมาล้นแต่เป็นปฏิกูลและสิ่งที่ไม่น่าดูชม ไม่วปร่างหน้าตาหรือกลิ่นก็ตามแล้วแต่เป็นสิ่งไม่งาม
ของคนอืนก็เช่นกันไม่ต่างจากเราเลย ล้วนแล้วแต่เป็นปฏิกูล ดังนั้นจึงควรพิจารณาถึงความไม่งามของสังขารทั้งของเราและของคนอื่นว่าก็เป็นปฏิกูลด้วยกันทั้งสิ้น จะน้อยอย่าไปยึดติดกับคน สัตว์ สิ่งของ จะได้ปลอดกังวล แล้วการปฏิบัติธรรมของเราก็จะราบรื่นยิ่งๆ ขึ้นไป