สติปัญญาและความปฏิกูลภายในร่างกาย “อ๊อกถ่อกว่า เหน่อเกอสิยา“  ต้องเปิดอ่าน ถึงจะรู้ หน้า 197
หน้าที่ 197 / 272

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเน้นถึงความจริงของร่างกายมนุษย์ว่าเป็นสิ่งปฏิกูล ตามแนวความคิดของพระมหาจู สุกฺกาโม โดยชี้ให้เห็นถึงการมีกลิ่นและความเน่าเหม็นที่เกิดจากการไม่สนใจในการบำรุงรักษาร่างกาย โดยใช้สติพิจารณาให้ดีจะนำไปสู่การพ้นทุกข์ได้ นอกจากนี้ยังมีการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบำรุงร่างกายและสิ่งปฏิกูลที่เกี่ยวข้องภายในร่างกาย

หัวข้อประเด็น

-ความปฏิกูลในร่างกาย
-การบำรุงรักษา
-การพิจารณาทางจิต
-พ้นทุกข์ตามธรรมคำสอน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระมหาจู สุกฺกาโม ร่างกายคนเรานั้นจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งปฏิกูลของมันอย่างนั้นเองนั่นแล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้สนใจ หรือไม่มีสติปัญญาพิจารณาเห็นถึงความปฏิกูลในร่างกายเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วร่างกายเรานี้มีสิ่งปฏิกูลไหลออกมาจากทวารทั้ง 9 เป็นประจำ ซึ่งเราอาจมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์หรือสัตว์ที่ต้องระบายของเสียออกมาเพื่อให้มีชีวิตอยู่อะไรก็ตาม แล้วสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งปฏิกูลที่เรามองเห็นเป็นประจำและไม่ได้คิดว่ามันเป็นสิ่งปฏิกูลจึงได้ลงไหลในสว่าร่างกายนี้ นอกจากนี้ร่างกายยังมียมปฏิกูลที่เรามองไม่เห็นอีกมากมายอยู่ใต้หนังที่หุ้มเอาไว้ อย่างที่ท่านผู้ใดกล่าวเอาไว้ว่า ร่างกายนี้มีเนื้อใหญ่เกร่อน้อยเกร่อน้อยเกินไปเป็นสังใดที่เป็นสิ่งปฏิกูลอ่อนเป็นรังแห่งโรค เป็นที่น่ารังเกียจ นำขยะแขยงไม่ควรไปหลงไหลให้เสียเวลา ดังนั้นสิ่งที่อึกึ่กเรา คือร่างกายนี้ ถ้าเราใช้สติพิจารณาให้ดีแล้วย่อมสามารถนำไปสูทฝนทางพ้นทุกข์ดังเช่นพระพุทธองค์ได้ พระไกรพิชญ์ สุมาจิโก เราไม่ได้คิดไปเอง ร่างกายนี้เป็นสิ่งปฏิกูลจริงๆ ถ้าเราเจาะใจอย่างลึกแล้วไม่ว่าจะหัวรดเท้าก็เป็นสิ่งเห็นเน้น ถ้าไม่พยายามบำรุงบำเรอ ปล่อยไว้ก็จะส่งกลิ่น จะเน่าเป็นของไม่สวยงาม แต่ยังดูดึงดูได้เพราะเรามีการบำรุง เปรียบเหมือนพรมน้ำหอมใส่จูงตอนพรมน้ำหอม พอหมดกลิ่นที่แต่งเติมก็เน่าเหม็น เพราะเนื้อแท้เป็นของเน่าเหม็นนั่นเอง พระสิทธิพร สุมาจิโมโล จริงๆ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เราไม่ได้คิดไปเอง น่าจริง เห็นจริง สกลปรกจริงตามสภาพของมัน แม้ร่างกายยังไม่เอา ต้องขยันทั้งออกมาเป็นของเสียทางช่องน้อย ช่องใหญ่ทั่วร่างกายปล่อยทั้งไว้จนถึงส่งกลิ่นเน่าเหม็น เป็นน่ารังเกียจหนักเข้าไปอีก แม่สิ่งอื่นที่ไม่ใส่ปกปิดจูงมาเต็มก็เน่าเหม็น เมื่อมาเจอกับร่างกายที่ปฏิกูลก็กลายเป็นของปฏิกูลไปทั้งสิ้น เช่น เครื่องนุ่มหนม ที่นอน ที่อยู่ยาก ลิตร ยารักษาโรค ไม่ได้ปฏิกูลมาแต่เดิม พอมาเจอร่างกายนี้เท่านั้นก็เปรอะเป็นปฏิกูลไปทันที ความปฏิกูลนี้ตัวเราก็รู้ แต่น คงยังรู้ ซึ่งต้องคอยเฝ้าดู ล้าง ทำความสะอาด หาของหอมมาใส่ให้ความเน่าเหม็นอยู่ทุกวันจึงพอจะทนตัวเองได้ และทนกันได้ เพราะร่างกายนี้ปฏิกูลจริงๆ มันจึงคอยแต่แสดงความปฏิกูลออกมา ดังที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดข้างต้นครับ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More