การทำศิลวรรษธนู: สัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลง : หน้า 221/272

นั่นทิวล เทพบุณศรี ผมขนเส้นฟัน หนังยังเป็นปฏิกูลตลอดเวลาชี้ ยิ่งในยุคศิลวรรษมกลแต่งกำลังเจริญรุ่งเรือง คนทั่วไปคิดว่าการตกแต่งหนังที่อุ้มห้วยจะแท้งหลายให้ดูสวยงามนั้น จะทำให้คนผู้นั้นดูดี มีฐานะ สูงศักดิ์ เลิศเลอ แต่ตามความเป็นจริงแล้วมิได้แต่งแต่งหนังภายนอกที่นํามาปกปิดอวัยวะภายใน อวัยวะภายในก็ยังคงเน่าเหม็นอยู่ดี เหมือนเอาใบดองมาปิดปลาเน่า ปลาเน่า ก็กลายเป็นเน่าอยู่เหมือนเดิม ใบดองไม่ให้ช่วยให้ปลาหายเน่าอยู่คงทนถาวร ร่างกายของคนเราเช่นกัน แม้จะศิลวรรษธนูนี้ มองภายนอกแล้วจะดูสวยงามแค่ไหน ภายในก็ยังเต็มไปด้วยน้ำเลือด น้ำหนอง ไขมัน เสลด เป็นต้น ทั้งยังคงความเหม็นเน่าเสื่อมสลายอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราไม่ควรจะไปยึดมั่นกับร่างกายปลายธนูภายนอกให้ใจหมกมุ่นหาประโยชน์อะไรไม่ได้ เราควรเอาใจมาอยู่กับพระรัตนตรัยร้ายใน หากความใส่ สงบเป็นคุณค่าที่แท้จริงให้ตนเองดีกว่า เป็นประโยชน์กับตัวเราในโลกนี้และโลกหน้า ลูกวดี บัตรศรีมงคล ไม่ว่าจะศิลวรรษธกแต่งผม ขน เส้นฟัน หนังให้สวยงามดูขนาดไหน สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นปฏิกูลตามธรรมชาติ ไม่มีใครสามารถฝืนกฎธรรมชาติได้ สังขารร่างกายมิเกิดขึ้นตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา การศิลวรรษธนูทำให้ดีไม่ได้ แต่ไม่อาจห้ามความเสื่อมสลายของสังขารร่างกาย ไม่อาจทำให้สิ่งทรายายขาดจากความเป็นปฏิกูลได้ เสมือนความตายที่ไม่มีใครเลยที่เสี่ยงได้แม้แต่คนเดียว การทำศิลวรรษธนูเหมือนการใส่หน้ากากปิดซากศพที่เดินได้ไว้ หากถอดหน้ากากคือมองดูสังขารให้ทะลุปรุโปร่งถึงภายในที่ถูกผิวหนังห่อหุ้มไว้จะเห็นกล้ามเนื้อ ไขมัน เส้นเอ็น น้ำเลือด น้ำเหลือง โครงกระดูก มีกลิ่นเหม็นคาว กลิ่นเน่า หากไม่มีวิญญาณครองก็เป็นเหมือนศพดีๆ นั่นเอง การทำศิลวรรษธนูทำได้เพียงภายนอก ผิวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ทำได้ทำให้ซากศพที่เดินได้นั้นสวยงาม ดูด และหายจากกลิ่นเหม็นคาว เหม็นเน่า เปื่อยเน่าไม่บางกรณีการทำศิลวรรษธนูเกิดจากความผิดพลาด ยิ่งทำให้เห็นความเป็นปฏิกูลของสังขารได้ชัดเจนขึ้น หรือหากไม่ผิดพลาดก็ต้องคอยดูแลรักษาเป็นพิเศษ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อปกปิดความเป็นปฏิกูลของตัวเอง