ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- คำณีพระมงคลธรรมนิฏิฏิฏิ ยกศัพท์แปล ภาค ๑ - หน้าที่ 84
เป็นต้น สั่งสอนอยู่ ปุพเพ ในกาลก่อน อามมาก ชื่อว่าไม่เชื่อถือ
อุปภิคุณแนน เพราะอันไม่รับเอา โอวาทสุส ชึ้งโอวาท มม
ของเรา ปร นาม ชื่อว่าเหล่าอื่น (เณ ปร ชนา) อ. ชน ท.
เหล่าอื่น เหล่านั่น น วิธานนิติ ย่อมไม่รู้แจ้งว่า มัย อ. เรา ท.
คเถว่า ถือเอาแล้ว มู้ฉากาค ถือเอาดิฉ น อนุทหรือแสน ด้วย
อำานาจแห่งอคติฉันทะเป็นต้น ยามา เส ยอมอยู่บิล สิ คือว่า
วายามา ย่อมพยายาม ลุุุ่มลาม เพื่อความเจริญ ภูขุนานน
การนาน แห่งเหตุ ท. มีความแตกต่างเป็นต้น เอตก สุขุมแสง
ในทามกลางแห่งสงสัย อดี ดั่งนี้ ปัน แต่ว่า อาทิน ในกาลนี้
ปนิตปริสา อ. บูรพ์เป็นนิจิต ท. เน เหล่าได้ อนุเจร ใน
ระหว่าง ดูมาหา แห่งเธอ ท. ตดตก นั้น ปุณิตปราศา พิจารณา
เห็นเฉพาะอา โยนิโส โดยแยกคาย วิธานนิติ ย่อมรู้แจ้งว่า ปุพเพ
ในกาลก่อน มัย อ. เรา ท. ยอมหานดา พยายามอยู่ ฉนุทิวเสน
ด้วยอำนาจแห่งอคติฉันทะเป็นต้น ปฏิน veulent น เป็นผู้ปฏิบัติแล้ว
อโยนิส โดยไม่แยกคาย (อมุ) ย่อมเป็น อิติ ดังนี้ เมตรา
อ. ความหมายมั่น ท. กลศาสตร์ตา อนินทิตนับพร้อมแล้วว่า
ความทะละ อิม เหล่านี้ อาทิน ในกาลนี้ สมุนดิ ย่อมสงบ
สมุติยา จากลำนึก เต้ะ ปุณิตานน ของบัณฑิต ท.เหล่านั่น ติโ
นั่น คือว่า นิสสาย เพราะอคาย ปนิทปริโส ซึ่งบูขู่ผู้เป็นนัติต
ท. เหล่านั่น (ติติ) ดังนี้ (ปฐสู) แห่งว่า ปร จ อิติ