ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คำนี้พระมะอัมปัทธิฤา ยกศัทธาแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 86
เรื่องจุดลากและมาหากาล
๑๕. ๑๒/๒๑ ตั้งแต่ เถโร กิ ปน มัย ตยา กิตติสุดเจ
เป็นต้นไป.
เถโร อ. พระเถระ อุตตวา ไม่กล่าวแล้วว่า ปน ก็ มัย
อ. เร ท. วุติสาสา จําประพฤติ ตยา กิตติสุดเต ในวัตร์อัน
ท่านกล่าวแล้ว ก็ อย่างไร อติ ดังนี้ อาฐ กล่าวแล้วว่า อุปสิก
ดู่อนอุปสิกา (เมยาก) กาตู อ. อันฉันจะทำ ก็ ซึ่งอะไร วุฎฏิ
ย่อมควร อติ ดังนี้ ๑ (กาลี) อ. นางกาสี (อาศ) เรียนแล้ว
ว่า ภณเฑ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ โสสานิกา นาม ชเนี กนี กิตตู อ.
อันชน ท. ชื่อว่าผู้อยู่ในป่าช้าบอก สุนทาโว ซึ่งความเป็นคือ
อันอยู่ สุตสาน ในป่าช้า สุนทานโปลาปน ชนาน ฯ แก่ท่าน ท. ผู้
คุ้มครองซึ่งป่าช้าด้วย วิหาร มหาเถรสู จ แก่พระเถระใหญ๋
ในวิหารด้วย คำไชกสดฺ ฯ แก่ผู้ใหญ่บ้านด้วยวุฏฏิ ย่อมควร
ติฏิ ดังนี้ ๓ (เถโร) อ. พระเถระ (ปุจฺจิ) ถามแล้วว่า โส-
สถานนีกี ชเนี ก็แล้ว อ. อันชน ท. ผู้อยู่ในป่าช้าบอก (สุน-
ภาโย) ซึ่งความเป็นคืออันอยู่ (สุมาน) ในป่าช้า (สุมานโปลาปน)
ชนาน ฯ แก่ท่าน ท. ผู้คุ้มครองซึ่งป่าช้าด้วย วิหาร มหาเถรสู
๓) แก่พระเถระใหญ่ ในวิหารด้วย (คำไชกสดฺ ฯ) แก่ใหญ่
บ้านด้วย (วุฏฏิ) ย่อมควร กิการณา เพราะเหตุอะไง อิติ