ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรระพี ประช
ศาสดาเอกของโลก (๔)
๔๕
บรรพชาเป็นทางปลอดโปร่ง
สามารถที่จะช่วยให้หลุดพ้นจาก
ทุกข์ได้จริง ดูเหมือนว่าเบญจกามคุณต่างๆ ที่ชาวโลกยอมสยบ
ติดอยู่นั้น ไม่สามารถไปผูกมัดกักขังท่านได้ ครองเรือนไปก็คิด
เช่นนี้ไปด้วย แม้เพียงได้ยินคำกล่าวว่า สิทธัตถราชกุมารนี้เป็น
โอรสและเป็นพระสวามีของใคร คนเหล่านั้นจะต้องดับเย็นอย่าง
แน่นอน พระองค์ได้ฟังคำว่า นิพพุตะ ที่แปลว่า ดับ ก็รู้สึก
ถูกอกถูกใจถึงกับถอดแหวนอันมีค่ามอบให้ผู้ที่กล่าวตอนนั้นทีเดียว
ในที่สุดถึงวันที่บารมีเต็มเปี่ยม เมื่อมีพระชนมายุได้ ๒๙
พรรษา มีเหตุทำให้พระองค์ไม่ยินดีที่จะครองราชสมบัติต่อไป
คืนหนึ่ง พระองค์ทอดพระเนตรเห็นสตรีนักฟ้อนทั้งหลายกำลัง
นอนหลับทับเครื่องดนตรีอยู่ บางพวกมีน้ำลายไหล บางพวก
กัดฟันเสียงดัง บางพวกนอนกรนบ้าง นอนอ้าปากบ้าง เสื้อผ้าที่
สวมใส่หลุดลุ่ย เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น ทรงมี
พระหฤทัยเบื่อหน่ายในกามทั้งหลาย แม้พระราชวังที่ตกแต่ง
ประดับประดาไว้ประดุจภพของท้าวสักกะ ก็ปรากฏเหมือนป่าช้า
ผีดิบ ซึ่งเต็มด้วยซากศพนานาชนิด ภพทั้ง ๓ ปรากฏทันที
เหมือนเรือนถูกไฟไหม้ จึงเปล่งอุทานว่า “วุ่นวายจริงหนอ
ขัดข้องจริงหนอ” พระทัยของพระองค์ทรงน้อมไปเพื่อบรรพชา
คืนนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยเด็ดเดี่ยวเสด็จขึ้นม้ากัณฐกะ