ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
ชัยชนะครั้งที่ ๑ (ตอนที่ ๒ ชนะพญามาร)
៨២
ทันใดนั้นเอง อสนีบาตฟาดเปรี้ยงลงมา หมู่มารทั้งหลาย
ต่างตื่นตระหนกตกใจกลัวบุญญานุภาพของพระมหาบุรุษ แม้
ช้างคิรีเมขล์ก็ไม่อาจยืนต้านทานกระแสน้ำได้ถึงกับคุกเข่าล้มลง
9
มารที่นั่งบนคอช้างคิรีเมขล์ก็ตกลงมาที่แผ่นดิน แม้พวกเสนามาร
ทั้งหมดต่างก็กระจัดกระจายไปในทิศใหญ่ทิศน้อย เหมือนร่าแกลบ
ที่กระจายไปทั่ว พญามารเกรงพระเดชาบารมี รีบหลบหนีไป
ซ่อนเร้นด้วยความเสียใจ ที่พ่ายแพ้พระบรมโพธิสัตว์ ถึงกระนั้น
ก็อดชมเชยพระบรมโพธิสัตว์ไม่ได้ว่า “บุคคลใดในโลกและเทวโลก
ที่จะเสมอด้วยพระองค์ไม่มี พระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ผู้มีอานุภาพ มีเดชครอบงำสรรพสัตว์ทั้งหลาย จะขนหมู่สัตว์
ผู้ชาญฉลาดให้ข้ามพ้นโอฆะได้ บรรลุฝั่งมหานฤพานอันเกษม
ในคราวนี้แน่นอน”
เราจะเห็นว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชนะมารและ
เสนามาร ตั้งแต่ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อทรงชนะมาร
แล้ว พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรโดยมิย่อท้อ ในเวลาปฐมยาม
ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติในหนหลังได้ว่า ใน
ชาติก่อนพระองค์เกิดที่ไหน เป็นอะไร มีชื่อและโคตรอย่างไร
เป็นต้น ในเวลามัชฌิมยามทรงบรรลุจุตูปปาตญาณ รู้การจุติ
และอุบัติของสัตว์ทั้งหลายว่า สัตว์นั้นทำกรรมอะไร ตายแล้วไป