ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
ชัยชนะครั้งที่ 5 (ตอนที่ 5 ชนะ สัจจกนิครนถ์)
อ
พระพุทธองค์ทรงดำริว่า “สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ในอดีต ในอนาคต หรือในปัจจุบันที่เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัส
ที่เกิดขึ้นเพราะความเพียร ทุกขเวทนานั้นล้วนไม่เกินไปกว่านี้อีก
แล้ว แต่เรายังมิได้บรรลุญาณทัสสนะอันวิเศษที่พอแก่การเป็น
พระอริยะ เราบำเพ็ญทุกรกิริยาแสนสาหัส แต่ไม่สําเร็จผล
ชะรอยทางแห่งการตรัสรู้ จะเป็นทางอื่นกระมัง”
เมื่อพิจารณาเช่นนั้น ทรงหวนระลึกถึงสมัยที่ยังเป็นเด็ก
เมื่อคราวไปร่วมพิธีแรกนาขวัญกับพระบิดา พระองค์นั่งอยู่ใต้ร่ม
หว้า มีใจสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ได้บรรลุปฐมฌาน จึงดำริว่า
“สงสัยจะเป็นทางนั้นกระมังที่เป็นทางแห่งการตรัสรู้ หากเป็น
ทางตรัสรู้จริง ผู้ที่จะบรรลุธรรมต้องมีความสบายทั้งกายและใจ”
พระองค์จึงเริ่มกลับมาเสวยอาหารเช่นเดิม
ปัญจวัคคีย์ที่คอยเฝ้าอุปัฏฐากเห็นพระองค์ทรงเลิก
ความเพียรอย่างอุกฤษฏ์จึงพากันละทิ้งพระองค์ไปอยู่ที่อื่น
พระองค์ไม่ได้ใส่ใจ เมื่อเสวยอาหารหยาบให้กายมีกำลังแล้ว
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย นั่งบำเพ็ญเพียรใต้ต้นโพธิ์ ทรง
บรรลุปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌานไปตามลำาดับ
เมื่อจิตเป็นสมาธิตั้งมั่นไม่หวั่นไหวก็เข้าถึงพระธรรมกาย ทรง
น้อมจิตไปเพื่อปุพเพนิวาสานุสติญาณ สามารถระลึกชาติในอดีต