ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
จันทกุมาร บำเพ็ญขันติบารมี (๒)
๓๔๓
ความปีติใจที่มีพระโอรสที่ปรีชาสามารถวินิจฉัยอรรถคดีตั้งแต่
ยังเยาว์ จึงทรงประทานตำแหน่งหน้าที่ผู้วินิจฉัยอรรถคดีให้แก่
พระกุมาร ผลประโยชน์ของกัณฑหาลพราหมณ์จึงหมดไป ทำให้
พราหมณ์ผูกอาฆาตพยาบาทต่อจันทกุมารมาโดยตลอด
ต่อมาใกล้รุ่งวันหนึ่ง พระราชาทรงสุบินว่า ได้ทอด
พระเนตรเห็นดาวดึงสพิภพ มีซุ้มประตูประดับประดาสวยงาม
มีกำแพงที่สร้างด้วยแก้ว ๗ ประการ มีถนนหนทางที่สร้างด้วย
ทรายทอง กว้างประมาณ ๖๐ โยชน์ ประดับไปด้วยเวชยันต
ปราสาทสูง 9,000 โยชน์ เป็นที่รื่นรมย์ไปด้วยสวนสวรรค์มากมาย
มีสระโบกขรณีอันน่ายินดี มีหมู่เทพเกลื่อนกล่น นางเทพอัปสร
จำนวนมากพากันฟ้อนรำ ขับร้องประโคมดนตรี ในเวชยันต
ปราสาท
ครั้นพระราชาตื่นบรรทม ทรงปรารถนาจะได้เยือน
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เหมือนในฝัน บังเอิญเช้าวันนั้น พระราชา
ตรัสเล่าความฝันให้กัณฑหาลพราหมณ์ที่มาเข้าเฝ้าแต่เช้าตรู่
และทรงถามว่า “ขอท่านได้ช่วยบอกทางไปสวรรค์แก่เราด้วยเถิด
เราจากโลกนี้แล้ว จะได้ไปสุคติสวรรค์ด้วยวิธีการใด ขอท่านจง
บอกทางแห่งสุคติแก่เราเถิด”
พราหมณ์คิดไม่ออก เพราะไม่รู้จักทางไปสวรรค์ คิดแต่ก็