ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
เนมิราชชาดก บำเพ็ญอธิษฐานบารมี (๑๐)
៤៩៦
ต่อมาพระเจ้าเนมิราชทอดพระเนตรเห็นวิมานทองสุกใส
มีรัศมีเหมือนดวงอาทิตย์อ่อนๆ ในยามเช้าตรู่ มาตลีเทพสารถีได้
อธิบายว่า “เทพบุตรนี้เป็นคฤหบดีอยู่ในกรุงสาวัตถี เป็นทานบดี
ถวายข้าวปลาอาหารแด่ภิกษุสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลกอยู่
เป็นประจำ ได้บริจาคเงินก่อสร้างอารามที่พักสงฆ์ ได้ถวายจีวร
บิณฑบาต คิลานปัจจัย และเสนาสนะแด่ภิกษุสงฆ์ผู้เดินทางมา
อารามซึ่งตัวเองได้สร้างไว้ ส่วนวันพระทั้งข้างขึ้น ข้างแรม ได้
สมาทานศีล ๘ ไม่ให้ด่างพร้อย เมื่อละจากโลกมนุษย์ จึงบันเทิง
อยู่ในสวรรค์”
ในขณะที่มาตลีเทพบุตรกำาลังเป็นมัคคุเทศก์นําทาง
พระเจ้าเนมิราชท่องเที่ยวแดนสวรรค์อยู่นั้น ท้าวสักกเทวราช
ทรงดำริว่า มาตลีมาช้าจังเลย เพราะเหล่าทวยเทพต่างก็ตั้งตา
รอคอยอยู่ จึงส่งเทพบุตรผู้ว่องไวอีกองค์ให้รีบไปตามมาเข้าเฝ้า
โดยด่วน มาตลีเทพสาร ฟังคำของเทพบุตรแล้ว ได้ใช้เทวานุภาพ
ของตน บันดาลให้พระเจ้าเนมิราชทอดพระเนตรเห็นในเวลา
เดียวกันหลายๆ วิมาน เช่น วิมานทองลอยอยู่ในนภากาศ
ไพโรจน์โชติช่วง เหมือนสายฟ้าในระหว่างก้อนเมฆ เป็นวิมาน
ของเทพบุตรผู้มีฤทธิ์มาก มีหมู่อัปสรห้อมล้อม ผลัดเปลี่ยนเวียน
อยู่ในวิมานต่างๆ เหล่านั้น พระเจ้าเนมิราชทรงอดไม่ได้ที่จะถาม