ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ศาสดาเอกของโลก (5)
๖๔
เมื่อได้ตรัสรู้กายธรรมอรหัตแล้ว พระองค์เสวยวิมุตติสุข
อย่างเดียว เป็นสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปนที่เรียกว่าเอกันตบรมสุข
ได้ซาบซึ้งกับคําว่า นิพพาน ปรม สุข ยิ่งนัก เพราะพระองค์
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอรหัต มีความสุขทั้งวันทั้งคืน
เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานตลอดเวลา ตลอด ๔๙ วัน ทรงศึกษา
วิชชาธรรมกายต่อไป พระองค์เข้านิโรธสมาบัติ อาศัยกายธรรม
เข้าไปศึกษาควบคู่กับความสุขที่พรั่งพรูทับทวีกันขึ้นมา ศึกษาทั้ง
ในอิริยาบถเดิน ยืน นั่ง สลับกันไปตลอด ๔๙ วัน ไม่ถอนถอย
เห็นกายธรรมในกายธรรมทับทวีกันเข้าไปเรื่อยๆ ธรรมจักษุก็
บังเกิดขึ้นมา ทําให้เห็นได้รอบตัว เห็นได้ชัดเจน เห็นได้ทั้งในอดีต
ปัจจุบันและอนาคต เพราะว่าใจหยุดอยู่ตรงกลางอย่างเดียวใน
กลางธรรมกาย
พระพุทธองค์อาศัยธรรมจัก ขยายความเห็นไปได้รอบทิศ
เห็นไปได้รอบตัวเป็นความเห็นที่แตกต่างจากการเห็นของตามนุษย์
ตาของมนุษย์มองเห็นได้ด้านเดียวเท่านั้น แต่ตาของธรรมกาย
หรือธรรมจักษุนั้นเห็นได้รอบทิศ จะน้อมไปในอดีตก็เห็นอดีต
จะน้อมให้เห็นปัจจุบันก็เห็นปัจจุบัน จะน้อมไปในอนาคตก็เห็น
อนาคต สว่างอยู่ตลอดเวลา เหมือนตัวของพระองค์เป็น
จุดศูนย์กลางของสรรพสิ่ง เป็นจุดศูนย์กลางของสิ่งนั้นๆ