ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
วิธูรบัณฑิต บำเพ็ญ สัจจบารมี (๒)
๓๗๔
ขึ้นไปหยิบดวงแก้วมา
โดยไม่เกรงกลัวยักษ์ผู้เป็นเจ้าหน้าที่
ซึ่งคอยอารักขาอยู่ เพราะปุณณกยักษ์มีศักดิ์ใหญ่กว่า มี
อานุภาพมากกว่า เมื่อได้แก้วมณีมาแล้ว ก็รีบควบม้ามุ่งหน้าสู่นคร
อินทปัตต์ทันที
ปุณณกยักษ์ลงจากหลังม้าแล้วเข้าสู่สภาแห่งชาวกุรุรัฐ
ประกาศท้าทายพระราชา ๑๐๑ พระองค์ ที่กำลังประชุมพร้อม
เพรียงกันอยู่ ณ ที่นั้นว่า “แก้วมณีดวงนี้ มีอานุภาพมาก
สามารถนําทรัพย์สมบัติมาให้ได้ดังใจปรารถนา ถ้าใครสามารถ
ชนะการเล่นสกาได้ ก็จะได้ม้าอาชาไนยตัวนี้ และแก้วมณีดวงนี้
ไปครอบครอง" พระเจ้าธนัญชัยทรงสดับแล้ว จึงตรัสว่า “ดู
ก่อนพ่อมาณพ แก้วมณีดวงเดียวจักทำอะไรได้ ม้าอาชาไนยตัว
เดียวจักทำอะไรได้ ดวงแก้วของพระราชาก็มีมากมาย
ม้าอาชาไนยมีกำลังรวดเร็วดุจลมพัด สิ่งเหล่านี้ก็มิใช่ว่าจะไม่มี”
ยักษ์ฟังเช่นนั้น จึงกราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า ม้า
ของข้าพเจ้าตัวเดียวมีอานุภาพยิ่งกว่ามานับ 9,000 ตัว แก้วมณี
ของข้าพเจ้าดวงเดียวมีคุณค่ามากกว่าแก้วมณีนับ 9,000 ดวง
ม้าทั้งชมพูทวีปไม่อาจเทียบกับม้าของข้าพเจ้าได้ ขอพระองค์
ทอดพระเนตรก่อนเถิด” ยักษ์ควบม้ากระโจนขึ้นไปบนกำแพง
เมืองที่กว้าง ๓ โยชน์ เหาะเหินรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ จนพระ
ราชาทุกพระองค์มองแทบไม่ทัน เห็นแต่ผ้าแดงที่คาดพิงเท่านั้น